สีทาบ้านเบเยอร์คูล ช่วยลดโลกร้อน บรรเทาปัญหาโลกเดือดได้อย่างไร

การทาสี ลดโลกร้อนได้อย่างไร

 

ภาวะโลกร้อน ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอันดับ 1 ในขณะนี้ ที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังเจอผลกระทบอย่างหนัก ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ (ร้อนจัดจนแห้งแล้ง) และลานีญา (ฝนตกหนักน้ำท่วม)

แล้วเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ ยังประกาศว่าตอนนี้โลกได้เข้าสู่ภาวะโลกเดือด (Global Boiling) ซึ่งคือภาวะที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส และสูงเกินกว่าเพดานการควบคุมสภาวะโลกร้อนตามความตกลงปารีส  เป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ทั่วโลก

ในการลดโลกร้อนมีหลายวิธีที่หลายคนอาจจะทราบกันดีและเคยทำมาก่อน  เช่น การลดการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ยากอย่างถุงพลาสติก หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่หลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อนว่า การทาสีบ้าน ก็สามารถช่วยลดโลกร้อนได้เหมือนกัน(1) เพียงแต่สีทาที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติ Eco-friendly ที่ช่วยลดคาร์บอนได้ และมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนสูง

โดยไม่ใช่ว่าสีทุกแบบจะมีคุณสมบัติตามทั้งสองข้อที่กล่าวไป คำถามคือ แล้วสีแบบไหนล่ะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยลดโลกได้ และการทาสีมันช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร ในบทความนี้มีคำตอบ ที่แน่ ๆ สีเบเยอร์คูล ช่วยลดโลกร้อนได้จริงแท้และแน่นอนครับ

 

การทาสีเบเยอร์คูล ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร

1. ผลิตสีด้วยพลังงานสะอาด ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตสี กล่าวคือในการผลิตสี จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก แล้วการที่จะได้ไฟฟ้ามานั้นต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาล ซึ่งถ้าเราสามารถลดการใช้ไฟฟ้าจากทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นลงได้ แล้วเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ ก็จะเป็นการช่วยลดโลกร้อนได้ยังไงล่ะครับ

 

ใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตสี

 

โดยในการผลิตสีเบเยอร์คูล ได้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ที่ติดตั้งไว้ รวมไปถึงได้นำสารประกอบที่ทำมาจากพืช (BIO-BASE) มาใช้ทดแทนวัตถุดิบบางอย่างที่ทำจากปิโตรเลียม เพื่อเป็นการลดมลพิษจากการสร้าง และเพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

 

2. ไม่ปล่อยสาร VOCs ไม่เกิดก๊าซเรือนกระจก

ในผลิตภัณฑ์สีทาบ้านทั่วไป จะมีการใช้สารเคมีที่เป็นส่วนผสมของสารเติมแต่ง ซึ่งสารเหล่านั้นอาจจะปล่อยสารประกอบอินทรีย์อันตรายที่ระเหยได้ (Volatile Organic Compounds) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า VOCs ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำปฏิกิริยากับแสงแดดกลายเป็นก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gas)(2) สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สภาพภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง และอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย (Climate Changes) ยิ่งไปกว่านั้นสารระเหยดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย และ BegerCool นั้นเป็นสีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสถาบันและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมแล้วว่าเป็นสี Low Vocs กลิ่นอ่อน ปลอดภัยไม่ปล่อยสารระเหยที่เป็นอันตราย ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกด้วย

 

ทาสีที่ Low VOCs ปลอดภัย

เบเยอร์คูล ออลพลัส สีรักษ์โลก หยุดโลกร้อน

เบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ 15 สีรักษ์โลก หยุดโลกร้อน

3. ช่วยสะท้อนความร้อน บ้านไม่ร้อน โลกก็ร้อนน้อยลง 

เวลาผนังบ้านของเราเจอแดดในช่วงกลางวัน พื้นผิวบริเวณนั้นจะดูดซับสะสมความร้อนไว้ แล้วพอตกกลางคืนก็จะคายความร้อนออกมา ซึ่งความร้อนที่ปล่อยออกมาจะลอยขึ้นไปสะสมบนบรรยากาศ ส่งผลให้เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดปรากฎการณ์เกาะความร้อน (Urban Heat Island) ที่ทำให้สภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิสูงขึ้น

 

ทาสีสะท้อนความร้อนสูง

 

แต่ด้วยเทคโนโลยีเซรามิกคูลลิ่ง ที่มีในสีเบเยอร์คูล จะช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้สูงถึง 97.2%(4) บนพื้นผิวออกไป ผนังบ้านไม่สะสมความร้อน จึงช่วยลดความรุนแรงของปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้อุณหภูมิในบ้านเย็นขึ้น แล้วพอบ้านเย็นขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าก็กินไฟน้อยลง เครื่องปรับอากาศก็กินไฟน้อยลง ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลงจริง ๆ ซึ่งมีฉลากประหยัดไฟประสิทธิภาพสูงมาการันตีคุณสมบัตินี้    

 

4. ทาสีเสร็จ ก็นำถังมาใช้ใหม่ ลดขยะได้อีกเยอะ

หลังจากทาสีเสร็จ เราสามารถนำถังสีเบเยอร์คูลไปล้างทำความสะอาด แล้วนำไปสร้างสรรค์เพื่อนำกลับไปใช้งานใหม่ (Reuse) ในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น นำไปใช้ใส่ของ ทำกระถางต้นไม้ ทำเก้าอี้ หรือเอาไปให้หน่วยงานบดย่อยบีบขึ้นรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ก็ได้

แจก 12 ไอเดีย เปลี่ยนถังสีให้เป็นไอเทมดีต่อโลก

 

สีแบบไหนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จะรู้ได้อย่างไรว่า สีทาบ้านแบบไหนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คุณสามารถสังเกตง่าย ๆ ที่สัญลักษณ์  ฉลากเขียว หรือฉลากเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านการรับรองจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย บริเวณข้างถังสี ในแค็ตตาล็อกสินค้า หรือในเอกสารด้านเทคนิคของสีรุ่นนั้น ๆ ว่ามีการระบุถึงฉลากรับรองดังกล่าวหรือไม่ ดังภาพ ซึ่งสีจะได้รับฉลากนี้ จะต้องผ่านเกณฑ์เรื่องการปล่อยสาร VOCs และต้องเป็นสีที่ปลอดภัยจากสารโลหะหนัก เช่น สารปรอท หรือสารตะกั่ว

 

ฉลากเขียว ในสีทาบ้านเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ยิ่งไปกว่านั้น หากสีตัวไหน ได้รับฉลากลดโลกร้อน (สีทอง) หรือที่เรียกว่าฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ก็สามารถยืนยันได้เลยว่า สีตัวนั้นช่วยลดโลกร้อน จากการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่กระบวนการผลิตได้นั่นเอง ซึ่ง เบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ 15 ปัจจุบันเป็นสีทาบ้านรายแรกและรายเดียวในไทยที่ได้รับฉลากดังกล่าว

ฉลากลดโลกร้อน เบเยอร์คูล รายแรกและรายเดียวในไทย

แม้ว่าการทาสี อาจจะไม่ใช่วิธีลดโลกร้อนที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถช่วยโลกใบนี้ได้ เพียงแค่เลือกใช้สีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง แบบสีลดคาร์บอน สีลดโลกร้อน เบเยอร์คูล แค่เราหยุดทำร้าย โลกก็จะไม่ถูกทำลาย ครับ 

References:

  1. Ecowatch.com
  2. Wikipedia, Greenhouse gas
  3. NSW, climatechange.environment.nsw.gov.au
  4. ผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการด้านรังสีและความร้อน ประเทศสิงคโปร์
SHARE :
กรุณาเลือกหมวดหมู่การค้นหา และพิมพ์คำค้นหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง