ทาสีบ้านหน้าฝนได้ไหม? จะเกิดปัญหาจริงหรือแค่ความเชื่อเดิม ๆ
หน้าฝน มักถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาอันตรายสำหรับการทาสีบ้าน เพราะหลายคนเคยเจอหรือได้ยินเรื่อง ปัญหาบ้านหน้าฝน มานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสีลอกล่อน บวมโป่งพอง หรือแม้แต่ เชื้อรา ตะไคร่น้ำ ที่ผุดขึ้นตามผนังภายนอก ซึ่งเกิดจากความชื้นสะสมในอากาศและพื้นผิวที่ยังแห้งไม่สนิท จนหลายคนถึงกับปักใจเชื่อว่า "ห้ามทาสีช่วงฝนตกเด็ดขาด!" แต่จริง ๆ แล้ว ปัญหาเหล่านี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากรู้จักวางแผนอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวที่เหมาะสม การตรวจสอบระดับความชื้น การเลือกใช้ สีรองพื้นทนชื้น ไปจนถึงการใช้สีทาบ้าน เกรดพรีเมียมที่แห้งไวและป้องกันเชื้อราได้ดี
ในบทความนี้ Beger จะพาคุณมาทำความเข้าใจใหม่ว่า การทาสีในหน้าฝน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัวอีกต่อไป หากมีการเตรียมพื้นผิวที่ดี ใช้ สีรองพื้นคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับฤดูฝน ควบคู่กับเทคนิคที่เหมาะสม คุณก็สามารถจัดการกับ ปัญหาบ้านหน้าฝน ได้อย่างมั่นใจ พร้อมหลีกเลี่ยงความเสียหายจาก สีลอก สีพอง หรือการเกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ ที่มักมากับฤดูนี้ ให้บ้านของคุณสวยจบ ครบ แม้ในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ
ต้องการทาสีบ้านหน้าฝนต้องทำอย่างไร
1. เช็กสภาพอากาศก่อนทาเสมอ
ถึงจะเป็นฤดูฝน แต่ก็ไม่ใช่ทุกวันที่จะมีฝนตก เคล็ดลับคือให้ดูพยากรณ์อากาศว่าสถานที่ ๆ คุณต้องการทาสีจะมีฝนตกวันไหน ช่วงเวลาใดบ้าง ให้เลือกวันและช่วงเวลาที่ฝนไม่ตก หรือตกน้อยที่สุด ซึ่งช่วงเวลาดีที่สุดคือวันที่มีฝนตกในช่วงค่ำกลางคืน เพราะว่าเราจะได้มีเวลาทาสีในช่วงเช้า และมีระยะเวลารอให้สีแห้งและเซ็ตตัวในช่วงบ่ายถึงช่วงเย็น
2. ประมาณการเวลาแห้งของสี
โดยมากในการทาสีบ้านตามระบบ (สีสูตรน้ำ) กล่าวคือทาสีรองพื้น 1 เที่ยว และทาสีทับหน้า 2 เที่ยว ต้องใช้เวลาให้สีแห้งอย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาทาสี) และอาจจะใช้เวลามากกว่านั้นถ้าทาพื้นการทามีขนาดใหญ่ หรือต้องตั้งนั่งร้าน สมมุติว่าถ้าเริ่มทาสี 8 โมงเช้า ช่วงเวลาตั้งแต่ 8.00น. - 16.00น. จะต้องไม่มีฝนตกนั่นเอง
3. ตรวจความชื้นของผนัง
หลังฝนตกใหม่ ๆ ความชื้นชั่วคราวบนผนังจะมีค่ามากกว่า 90% ซึ่งไม่เหมาะสมแก่การทาสีใด ๆ เลย ควรรอจนค่าความชื้นลดเหลือต่ำกว่า 70% (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในตอนนั้น) หรือประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยทาสีรองพื้นทนความชื้นของเบเยอร์

4. เลือกใช้สีรองพื้นทนชื้นสูงสำหรับหน้าฝน
สีรองพื้นทั่วไปจะสามารถทนความชื้นได้ราว ๆ 14% แต่ถ้าเป็นสีรองพื้นชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติทนความชื้นได้สูงมาก ๆ จะสามารถทนความชื้นได้ถึง 25% - 40% สำหรับความชื้นสะสมภายใน และ 70% สำหรับความชื้นชั่วคราว ซึ่งเพียงพอสำหรับการทาสีในหน้าฝนแบบนี้ เบเยอร์ขอแนะนำสีรองพื้น 3 ตัวนี้เลยครับ
1. Beger Super Quick Primer B-2100 สีรองพื้นสูตรน้ำมัน ที่ทนชื้นได้มากที่สุดจากเบเยอร์ เหมาะกับการทาภายนอก แห้งไวใน 1-2 ชั่วโมง ทนความชื้นสะสมได้ 40% และความชื้นชั่วคราวได้ 70%
2. Beger Pro Quick Primer B-1900 สีรองพื้นสูตรน้ำมัน เหมาะกับการทาภายนอก แห้งไวใน 3-4 ชั่วโมง ทนความชื้นสะสมได้ 35% และความชื้นชั่วคราวได้ 70%
3. Beger Rain Quick Primer B-2900 สีรองพื้นสูตรน้ำ เหมาะกับใช้ทาภายใน (สามารถใช้ทาภายนอกได้เช่นเดียวกัน) มีกลิ่นอ่อน แห้งไวใน 2 ชั่วโมง ทนความชื้นสะสมได้ 25% และความชื้นชั่วคราวได้ 70%
5. ใช้สีทาบ้านเกรดสูงคุณภาพดีที่สุด
คุณสมบัติเรื่องกลิ่นอ่อน สีแห้งไว กันความชื้น กันเชื้อรา ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่พบได้กับสีทาบ้านสูตรน้ำอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคุณสมบัติจะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อย ซึ่งถ้าเป็นสีทาบ้านเกรดสูง ๆ (สีเกรด 15 ปี ขึ้นไป) เช่น BegerCool Diamond Shield 15 , BegerCool UV Shield, BegerShield AirFresh Anti-Virus Gold Ion สีเหล่านี้จะมีการใส่คุณสมบัติต่าง ๆ มาให้แบบเต็มแมกซ์ ซึ่งหมายความว่า สีจะแห้งไวกว่าสีเกรดทั่วไป และมีความทนทานต่อปัญหาต่าง ๆ ได้กว่านั่นเอง
แม้ว่าเราจะสามารถทาสีหน้าฝนได้ก็จริง แต่ถ้าวันนั้นเกิดฝนตก ก็ควรจะเลื่อนวันทาออกไป หรือทางที่ดีควรวางแผนระยะยาวเอาไปทาหน้าร้อน หรือหน้าหนาวแทนจะดีที่สุด เพราะว่าถ้าหากฝืนทาแล้วเกิดปัญหา มันก็ไม่คุ้มกับการเสียเวลาที่จะมาแก้ไข และต้องทาสีใหม่อยู่ดี เผลอ ๆ อาจทำให้เสียเงินมากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าจำเป็นต้องทาจริง ๆ เลื่อนไม่ได้ ก็อย่าลืมทำตาม 5 คำแนะนำที่เราได้บอกไปก็จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาสีได้พอสมควรเลยครับ
คำถามที่พบบ่อย
Q : ทาสีบ้านหลังจากฝนตก?
A : เราสามารถทาได้ แต่ควรทิ้งให้พื้นผิวแห้งสนิทก่อนอย่างน้อย 1 วัน และต้องใช้สีรองพื้นที่สามารถทนความชื้นสูงด้วย
Q : ห้ามทาสีภายในตอนฝนตก?
A : ไม่จริงครับ เราสามารถทาสีภายในได้ แต่ต้องมั่นใจว่าระหว่างนั้นฝนจากภายนอกจะไม่กระเซ็นเข้ามาด้านใน และต้องเผื่อใจไว้ว่าสีอาจจะแห้งช้า และมีกลิ่นอยู่นานกว่าปกติ
Q : ทาสีตอนฝนตกแล้วผนังจะขึ้นรา?
A : มีโอกาสเป็นไปได้ครับ เนื่องจากผนังขณะนั้นมีความชื้นสูง แล้วเมื่อทาสีทับลงไปความชื้นดังกล่าวอาจจะสะสมไว้ไม่ระบายออกมา นานวันไปก็อาจเกิดเชื้อราขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่แนะนำให้ทาตอนฝนตก แต่ให้ทาหลังฝนตกแทน พร้อมกับการใช้สีรองพื้นทนความชื้นสูงและสีทาบ้านเกรดสูง ที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ ก็จะช่วยให้ผนังบ้านเกิดเชื้อราได้ยากขึ้นครับ
Q : ทาสีเหล็กตอนฝนตกแล้วจะเป็นสนิม?
A : มีโอกาสเป็นไปได้ครับ เหล็กและน้ำเป็นของที่ไม่ควรเจอกัน การทาสีเหล็กตอนฝนตกยิ่งไม่สมควร ควรรอให้ฝนหยุด เช็ดเหล็กให้แห้งสนิทก่อน แล้วจึงค่อยใช้สีทาเหล็ก อาจจะเป็นสีน้ำมัน หรือสีทาเหล็ก 2 In 1