TH | EN

Graphene Shield Tech คืออะไร? ทำไมถึงเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ BegerShield แข็งแกร่งกว่าสีทั่วไป

Graphene Shield Tech

ในยุคที่บ้านไม่ได้เป็นเพียง “ที่อยู่อาศัย” แต่เป็น “สัญลักษณ์ของคุณภาพชีวิต” เทคโนโลยีสีทาบ้านจึงต้องก้าวไปอีกระดับ หนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คือ Graphene Shield Tech — เทคโนโลยีที่เบเยอร์นำมาใช้ใน BegerShield 2 in 1 เพื่อยกระดับความแข็งแรง ความเย็น และความทนทานของสีให้เหนือกว่าสีทั่วไป

Graphene Shield Tech คืออะไร

Graphene Shield Tech คือเทคโนโลยีที่ใช้วัสดุ “กราฟีน (Graphene)” — วัสดุที่ถูกยกให้เป็น “สิ่งมหัศจรรย์แห่งศตวรรษ” กราฟีนคือคาร์บอนบริสุทธิ์ที่มีโครงสร้างแบบ “รังผึ้งหกเหลี่ยม” บางเพียงหนึ่งอะตอม แต่แข็งแรงกว่าเหล็กถึง 200 เท่า

โครงสร้างนี้ทำให้กราฟีนมีคุณสมบัติพิเศษคือ

  • แข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่นสูง
  • กระจายแรงได้ทั่วพื้นผิว
  • นำความร้อนและไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม
  • ทนต่อการกัดกร่อนและความชื้น

เมื่อเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาผสมในเนื้อสี จึงเกิดเป็นฟิล์มสีที่มีความแข็งแรงระดับโมเลกุล ยึดเกาะแน่น ลดการแตกร้าว และทนต่อสภาพอากาศรุนแรงได้อย่างยอดเยี่ยม Graphene Shield Tech จึงเปรียบเสมือน “เกราะโมเลกุล” ที่คอยปกป้องผนังบ้านในทุกฤดูกาล — จากแดดแรง ฝนชื้น ไปจนถึงฝุ่นควันในเมืองใหญ่

กราฟีน : วัสดุที่ทั่วโลกให้ความสนใจ

เพราะความแข็งแกร่งและคุณสมบัติอเนกประสงค์ระดับโมเลกุล Graphene จึงกลายเป็นวัสดุที่อุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลกนำไปต่อยอดในหลากหลายด้าน เช่น

1. อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Industry)
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง Ford, BMW และ Tesla กำลังพัฒนา ชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีส่วนผสมของกราฟีน เพื่อให้

- ตัวถังรถแข็งแรงขึ้นแต่มีน้ำหนักเบาลง
- มีคุณสมบัติลดเสียงและการสั่นสะเทือน
- ทนต่อความร้อนและการกัดกร่อนได้ดีกว่าโลหะทั่วไป (อ้างอิงโดย - The graphene council)

2. อุตสาหกรรมป้องกันภัยและสิ่งทอ (Defense & Textiles) 
กราฟีนถูกใช้ใน เสื้อเกราะกันกระสุน น้ำหนักเบาแต่ทนแรงกระแทกสูง รวมถึงใน ชุดนักดับเพลิงและเสื้อกีฬา เพื่อช่วยระบายความร้อนและเพิ่มความทนทานของเนื้อผ้า (อ้างอิงโดย - European Defence Agency)

3. อุตสาหกรรมพลังงานและแบตเตอรี่ (Energy & Battery Industry)
หลายบริษัทเทคโนโลยี เช่น Samsung และ Huawei กำลังพัฒนา Graphene Battery ที่สามารถ ชาร์จเร็วกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม หลายเท่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า (อ้างอิงโดย - Graphene-info)

4. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)
กราฟีนถูกนำไปใช้ใน หน้าจอสัมผัส โปร่งใสแต่แข็งแรงสูง รวมถึงใน ชิปและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ความเร็วสูง ที่ช่วยประหยัดพลังงาน (อ้างอิงโดย - THOMAS For Industry)

Graphene

จุดเด่นที่ทำให้ Graphene Shield Tech แตกต่าง

1. แข็งแรงกว่าเดิมด้วยโครงสร้าง Graphene Layer
เทคโนโลยี Graphene Shield Tech ใช้วัสดุกราฟีนที่มีความแข็งแรงกว่าเหล็กถึง 200 เท่า เมื่อผสมในเนื้อสี จะช่วยเสริมแรงให้ฟิล์มสีแน่นหนา ยืดหยุ่นสูง และกระจายแรงดึงทั่วผนัง จึงลดการแตกร้าว การหลุดล่อน และยืดอายุผนังให้ยาวนานกว่าเดิม - “เกราะโมเลกุลที่ช่วยให้สีแข็งแรงขึ้นในทุกตารางนิ้วของผนังบ้าน”

2. ปกป้องผนังได้ยาวนานกว่า 15 ปี ด้วยนวัตกรรม Duratech
นอกจากพลังกราฟีนแล้ว BegerShield ยังเสริมด้วยเทคโนโลยี Duratech Ultra Protection ที่ผสาน Diamond Bond Resin กับ Triple UV Protection Technology ช่วยป้องกันรังสี UVA, UVB และ UVC ได้ครบวงจรทำให้สีไม่ซีด ไม่กรอบ และไม่หลุดร่อน แม้เผชิญแดดแรงหรือฝนชุกต่อเนื่อง

3. ฟิล์มสีป้องกันคราบและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าสีทั่วไปถึง 40%
จากการทดสอบตามมาตรฐาน Pendulum Hardness (ASTM D4366) ฟิล์มสีของ BegerShield ทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าสีทั่วไปถึง 40% และผ่านการทดสอบการเช็ดถูได้มากกว่า 300,000 ครั้ง มั่นใจได้ว่าผนังจะคงความเรียบเนียน และสวยงามยาวนานตลอดการใช้งาน

4. ช่วยลดอุณหภูมิพื้นผิวบ้านได้สูงสุด 6°C
กราฟีนมีคุณสมบัติการนำความร้อนและกระจายอุณหภูมิได้ดีเยี่ยม เมื่อผนังที่ทาด้วย BegerShield สัมผัสแสงแดด เทคโนโลยีนี้จะช่วยสะท้อนความร้อนออกจากผนังได้ถึง 97.2% จึงลดการสะสมความร้อนภายในบ้าน ทำให้อุณหภูมิลดลงสูงสุด 6°C ส่งผลให้บ้านเย็นขึ้นและช่วยประหยัดพลังงานได้จริง

5. ป้องกันความชื้นและเชื้อราได้ยาวนาน
โครงสร้างกราฟีนระดับนาโนช่วย “ปิดรูพรุนขนาดจิ๋ว” บนผนัง ลดการซึมผ่านของน้ำ แต่ยังคงให้ผนังระบายอากาศได้ดี ป้องกันคราบดำ เชื้อรา และกลิ่นอับในระยะยาว เหมาะกับภูมิอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย

6. ฟิล์มสีสะอาดง่าย ไม่เกาะฝุ่น
เทคโนโลยี Anti-Static & Conductive Surface ช่วยลดแรงยึดเกาะของฝุ่น ฝุ่นละอองจึงไม่เกาะตัวหรือสะสมเป็นคราบ ผนังบ้านดูสะอาดใหม่อยู่เสมอ แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ในเมืองหรือริมถนนใหญ่

7. ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สี BegerShield 2 in 1 ได้รับการรับรองมาตรฐาน Low VOCs ปลอดกลิ่นฉุน ไม่ระคายเคืองทางเดินหายใจ และลดการปล่อยสารระเหยสู่สิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับมาตรฐาน WELL และ ISO 14001 — สีที่ดีต่อบ้านและดีต่อโลก

8. ใช้งานง่าย ไม่ต้องรองพื้น
ด้วยคุณสมบัติ 2 in 1 (รองพื้น + ทับหน้า) ช่วยลดขั้นตอนการทา ประหยัดเวลา ค่าแรง และเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องในหนึ่งเดียว เหมาะกับทั้งบ้านใหม่และบ้านรีโนเวท

ใช้งานง่ายไม่ง้อรองพื้น

คุณสมบัติหลัก 3 ของ Graphene Shield Tech

1. Weathering – ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
ไม่ว่าจะเป็นลม ฝน แดด หรือรังสี UV Graphene Shield Tech ช่วยให้ฟิล์มสีแข็งแรงและยึดเกาะแน่น ไม่แตกร้าว ไม่หลุดล่อน และคงความเงางามได้ยาวนาน - “ผนังสวยคงทน ไม่ซีด ไม่กรอบ แม้ผ่านแดดฝนตลอดปี”

2. Extreme – ป้องกันการกัดกร่อนและการเกิดคราบ
เทคโนโลยีนี้ปกป้องผนังจากสนิม ความชื้น และการซึมของไอน้ำ พร้อมฟิล์มสีแบบ Hydrophobic & Anti-Static Surface ที่ช่วยป้องกันฝุ่นเกาะและคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ  - “สีที่แข็งแรง ทนสุดขั้ว ป้องกันการกัดกร่อนจากภายในสู่ภายนอก”

3. Cool Down – สะท้อนความร้อน ลดอุณหภูมิภายในบ้าน
กราฟีนเป็นตัวนำความร้อนที่ดีเยี่ยมช่วยให้ผิวสีสามารถสะท้อนและกระจายความร้อนได้รวดเร็วลดการสะสมความร้อนภายใน ทำให้บ้านเย็นขึ้น สีไม่ซีดจางง่าย - “บ้านเย็นขึ้น สบายขึ้น และสีสวยทนนานทุกฤดูกาล”

2C + 2S นวัตกรรมเพื่อบ้านที่สมบูรณ์แบบ

นอกจาก Graphene Shield Tech แล้ว BegerShield 2 in 1 ยังมาพร้อมแนวคิด 2C + 2S เพื่อให้สีทาบ้านของคุณ สวย เย็น สะอาด แข็งแรง และฉลาดกว่าเดิม

  • Cool – บ้านเย็นลงอย่างรู้สึกได้
  • Clean – ผนังสะอาด ไม่เกาะฝุ่น
  • Strong – แข็งแรงกว่าเดิม ทนต่อรอยขีดข่วน
  • Smart – สีอัจฉริยะเพื่อบ้านยุคใหม่

สีแห่งอนาคต เพื่อบ้านที่สมบูรณ์แบบ

Graphene Shield Tech ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีเสริม แต่คือ “หัวใจของการปกป้องบ้านในอนาคต” เทคโนโลยีนี้ทำให้ BegerShield 2 in 1 แข็งแรงกว่าเดิม ยืดหยุ่นกว่าเดิม และทนต่อทุกสภาพอากาศได้ดีกว่าสีทั่วไป ทั้งยังช่วยให้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - BegerShield 2 in 1 — สีที่เข้าใจชีวิต เข้าใจบ้าน และปกป้องได้ในระดับโมเลกุล

SHARE :
กรุณาเลือกหมวดหมู่การค้นหา และพิมพ์คำค้นหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง