ปูนกับคอนกรีตคืออะไร? แตกต่างกันอย่างไร พร้อมคำแนะนำเลือกใช้ปูนให้เหมาะกับการใช้งาน

ปูนและคอนกรีตเป็นวัสดุที่สำคัญที่สุดในงานก่อสร้าง แต่หลายคนมักสับสนว่าปูนและคอนกรีตคือสิ่งเดียวกัน ความจริงแล้ว ปูน (Cement) เป็นเพียงหนึ่งในส่วนผสมที่ใช้ทำคอนกรีต (Concrete) บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจทั้งสองอย่างอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำการเลือกปูนที่เหมาะสม และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น

ปูน (Cement) คืออะไร

ปูน หรือปูนซีเมนต์ คือผงสีเทาที่มีคุณสมบัติเป็นตัวประสาน เมื่อผสมกับน้ำจะเกิดปฏิกิริยาเคมีและแข็งตัว ทำหน้าที่ “ยึดเกาะ” วัสดุต่าง ๆ ให้ติดกัน ปูนถูกนำไปใช้หลายรูปแบบ ทั้งการก่ออิฐ ฉาบผนัง ปูกระเบื้อง และผสมทำคอนกรีต

1. ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ – ปูนมาตรฐานสำหรับผสมคอนกรีต ใช้ในงานโครงสร้าง เช่น เสา คาน พื้น

2. ปูนก่อ/ปูนฉาบ – ปูนที่ปรับสูตรให้เหมาะกับงานก่ออิฐและฉาบผนัง

3. ปูกาวปูกระเบื้อง – ปูนซีเมนต์ที่ปรับสูตรให้มีแรงยึดเกาะสูง สำหรับปูกระเบื้อง

- Beger Cement Tile-Bond Expert T-100 (ถุงเขียว) เหมาะสำหรับกระเบื้องทั่วไป

- Beger Cement Tile-Bond Super T-200 (ถุงแดง) เหมาะสำหรับกระเบื้องสระว่ายน้ำและขนาดใหญ่

- Beger Cement Tile-Bond Premium T-300 (ถุงทอง) สูตรพรีเมียม ปูได้ทั้งพื้น-ผนัง ขนาดใหญ่สุด 120x120 ซม. และปูทับกระเบื้องเดิมได้

4. ปูนซ่อม (Repair Mortar) – สำหรับซ่อมรอยแตกร้าวและซ่อมโครงสร้าง

- Beger Repair Mortar ปูนซ่อมอเนกประสงค์ชนิดไม่หดตัว เหมาะสำหรับซ่อมแซมโครงสร้าง เสา คาน ตกแต่งผิวคอนกรีตโครงสร้าง ปูนก่อ ปูนฉาบที่แตกหักเสียหาย ซ่อมกระเบื้องหลุดล่อน ซ่อมแซมรอยแตกร้าว รอยบิ่น รอยหลุมลึก

5. ปูนกาวยาแนว (Tile Grout)

ใช้ยาแนวร่องกระเบื้องเพื่อป้องกันการซึมของน้ำและสิ่งสกปรก ช่วยให้พื้นและผนังดูสวยงาม

- Beger Tile-Bond Plus กาวยาแนวสูตรยับยั้งราดำและแบคทีเรีย สำหรับร่องขนาด 1-6 มม. มีเฉดสีกว่า 12 สีให้เลือก ยึดเกาะสูง ลดการสะสมคราบสกปรก ทนกรด ทนน้ำยาทำความสะอาด

- Beger Tile-Bond ยาแนวกระเบื้องคุณภาพสูง สำหรับร่องขนาด 2-10 มม. เฉดสีกว่า 12 สี ยึดเกาะดี ไม่หดตัว ลดการซึมของน้ำ

? เคล็ดลับ: เลือกปูนกาวยาแนวให้เหมาะกับขนาดร่องกระเบื้อง และเลือกสีที่เข้ากับกระเบื้องเพื่อความสวยงาม

คอนกรีต (Concrete) คืออะไร

คอนกรีต คือวัสดุก่อสร้างที่ได้จากการผสม ปูนซีเมนต์ + น้ำ + ทราย + หิน (เรียกว่า มวลรวม) เมื่อผสมแล้วคอนกรีตจะสามารถเทลงแบบหล่อ และเมื่อแข็งตัวจะมีความแข็งแรงสูงมาก

ส่วนประกอบหลักของคอนกรีต

• ปูนซีเมนต์ – ตัวประสาน
• น้ำ – ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี (Hydration)
• ทราย – มวลรวมละเอียด ช่วยให้เนื้อคอนกรีตแน่น
• หิน – มวลรวมหยาบ เพิ่มความแข็งแรง

ชนิดของคอนกรีต

1. คอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-mix Concrete) – ผสมในโรงงาน คุณภาพสม่ำเสมอ
2. คอนกรีตอัดแรง (Prestressed Concrete) – เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น สะพาน
3. คอนกรีตหล่อสำเร็จ (Precast Concrete) – หล่อเป็นชิ้นงานเสร็จในโรงงาน แล้วนำมาติดตั้งหน้างาน
4.  

ทำไมต้องเข้าใจความแตกต่าง

การเข้าใจความต่างของปูนและคอนกรีตทำให้คุณเลือกใช้วัสดุได้เหมาะสม:

• ถ้าต้องการความแข็งแรง → เลือกคอนกรีต
• ถ้าต้องการซ่อมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือก่อฉาบ → เลือกปูนที่เหมาะสม
• ถ้าปูกระเบื้อง → ใช้ปูนกาวแทนปูนทรายเพื่อป้องกันปัญหากระเบื้องหลุดร่อน

เคล็ดลับ

• ปูน คือผงประสาน ใช้ทำงานก่อ ฉาบ ซ่อม และเป็นส่วนผสมหลักของคอนกรีต
• คอนกรีต คือวัสดุผสมที่ได้จากปูน+น้ำ+ทราย+หิน แข็งแรงสำหรับงานโครงสร้าง
• เลือกปูนให้เหมาะกับงาน เช่น Beger Repair Mortar สำหรับซ่อม, Beger Tile-Bond สำหรับปูกระเบื้อง

FAQ เกี่ยวกับปูนและคอนกรีต

Q1 : ใช้ปูนอย่างเดียวเทพื้นได้ไหม?
A  : ไม่ควร เพราะปูนเพียว ๆ จะแข็งตัวแต่เปราะ แตกง่าย ควรผสมเป็นคอนกรีตและเสริมเหล็กเส้น เป็นตาราง (ไวร์เมช - Wire Mesh) ร่วมด้วย  และความหนาของพื้นและขนาดเหล็กเสริมก็ขึ้นอยู่กับการใช้สอยเพื่อความแข็งแรง

Q2 : ถ้าซ่อมคานแตกร้าวควรใช้ปูนแบบไหน?
A   : ใช้ปูนซ่อม เช่น Beger Repair Mortar ที่ไม่หดตัวและยึดเกาะดี เหมาะกับซ่อมเสา คาน และผนัง

Q3 : ปูกระเบื้องใหญ่ต้องใช้ปูนกาวแบบไหน?
A   : สำหรับกระเบื้องใหญ่หรือสระว่ายน้ำ ควรใช้ Beger T-200 หรือ T-300 เพื่อการยึดเกาะที่แน่นหนาและป้องกันการหลุดร่อน