
เชื้อราขึ้นฝ้าเพดาน (Ceiling Mold) เป็นหนึ่งในปัญหาภายในบ้านที่เจ้าของบ้านหลายคนมักมองข้าม แต่แท้จริงแล้วเป็นสัญญาณเตือนถึงความชื้นสะสมภายในอาคาร ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจลุกลามและก่อให้เกิดทั้งความเสียหายต่อโครงสร้าง และปัญหาสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในฤดูฝนหรือพื้นที่ที่มีการรั่วซึมจากหลังคา ท่อน้ำ หรือระบบระบายอากาศที่ไม่ดี
เชื้อรามักเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่มองเห็นเป็นคราบสีน้ำตาล เหลือง หรือคราบดำบนฝ้าเพดาน ก่อนจะขยายวงกว้างและทำให้ฟิล์มสีเกิดอาการโป่งพอง ลอกล่อน และมีกลิ่นอับในห้อง นอกจากจะทำลายความสวยงามของพื้นที่แล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจของคนในบ้าน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
การเข้าใจ สาเหตุของราขึ้นฝ้าเพดาน และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเชื้อราที่มีคุณภาพ เช่น Beger MouldFree M-001 รวมถึงระบบรองพื้นและสีทับหน้าที่ป้องกันความชื้นสะสมได้ดี จะช่วยยืดอายุฝ้าเพดานให้ดูใหม่อยู่เสมอ และลดโอกาสการเกิดเชื้อราซ้ำในระยะยาว
ปัญหาราขึ้นฝ้าเพดาน (Ceiling Mold) มีสาเหตุจากความชื้นสูงซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ราดำ ราขาว และตะไคร่น้ำ เกิดเป็นคราบสีเขียวเข้ม คราบราสีดำ หรือคราบวงกลมสีน้ำตาลเหลืองตามฝ้าเพดาน โดยเฉพาะพื้นผิวที่มีรูพรุน หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเสียหายและรุกลามไปส่วนอื่นของบ้านได้ ฟิล์มสีโป่งพอง ลอกล่อน เสียหาย และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้
สาเหตุของราขึ้นฝ้าเพดาน
- ความชื้นสูงหลังฝนตก หรือจากปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณหลังคา เพดาน หรือพื้นบ้านชั้นบน
- ปัญหาท่อน้ำในบ้านแตกรั่วหรือรางน้ำฝนอุดตัน
- ระบบระบายอากาศไม่ดี ถ่ายเทไม่สะดวก ไม่มีแสงแดดส่องถึง

แนวทางแก้ไขราขึ้นฝ้าเพดาน
- ขัดล้างทำความสะอาดพื้นผิวที่มีเชื้อราด้วยแปรงขนพลาสติก, แปรงทางมะพร้าว หรือขัดพื้นผิวด้วยกระดาษทรายแทนก็ได้ ควรขัดเชื้อราในขณะที่พื้นผิวเปียกเท่านั้น มิฉะนั้นสปอร์ราอาจแพร่กระจายไปยังจุดอื่น ๆ ขณะทำความสะอาดควรสวมแว่นตาและหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัยและลดการสูดดมสปอร์เชื้อราเข้าสู่ร่างกาย กรณีฝ้าเพดานประเภทที-บาร์ ควรถอดออกมาล้างทีละแผ่น
- หลังเตรียมพื้นผิว 24 ชั่วโมง ให้ทาน้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำ Beger MouldFree M-001 จำนวน 1 เที่ยว ทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องล้างออก หรือขัดด้วยสารกำจัดอื่น ๆ เช่น น้ำยาฟอกขาว ผงซักฟอก หรือแอลกอฮอล์
- กรณีทาสีทับหน้าใหม่ แนะนำให้ทาสีรองพื้นฟิล์มสีขาวที่มีคุณสมบัติทนความชื้นสะสมสูงหรือเหมาะกับงานภายใน เช่น สีรองพื้นสูตรน้ำมันอย่าง Beger Super Quick Primer B-2100 หรือ Beger Pro Quick Primer B-1900 สีรองพื้นสูตรน้ำอย่าง Beger Rain Quick Primer B-2900
- ทาสีทับหน้าที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ ฟิล์มสีทนทานสูงทุกสภาพอากาศ ลดปัญหาสีจากความชื้นได้ เช่น สีทาเพดานภายในโดยเฉพาะ เช่น BegerShield AirFresh Anti-Virus Gold iON for Ceiling , BegerCool DiamondShield 15 for Ceiling หรือ BegerCool DiamondShield 7 for Ceiling
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาเชื้อราขึ้นฝ้าเพดาน
Q1: เชื้อราขึ้นฝ้าเพดานเกิดจากอะไร?
A: สาเหตุหลักมาจากความชื้นสะสมภายในบ้าน เช่น หลังคารั่วซึม ระบบระบายอากาศไม่ดี หรือท่อน้ำแตกรั่ว ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่ายบนพื้นผิวฝ้าเพดานที่มีรูพรุน
Q2: เชื้อราฝ้าเพดานอันตรายไหม?
A: อันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เด็ก หรือผู้สูงอายุ เพราะสปอร์เชื้อราสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการไอ จาม และระคายเคืองทางเดินหายใจ อีกทั้งยังทำให้บ้านมีกลิ่นอับและไม่น่าพักอาศัย
Q3: จะทำความสะอาดเชื้อราฝ้าเพดานอย่างไรให้ปลอดภัย?
A: ควรขัดล้างขณะพื้นผิวเปียกเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของสปอร์ และสวมหน้ากากกับแว่นตาเพื่อความปลอดภัย จากนั้นใช้น้ำยากำจัดเชื้อรา Beger MouldFree M-001 ทาบริเวณที่มีคราบเชื้อรา ทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก
Q4: หลังทำความสะอาดแล้วควรทาสีใหม่ไหม?
A: ควรทาสีใหม่เพื่อป้องกันการกลับมาของเชื้อรา โดยใช้ สีรองพื้นกันชื้น เช่น Beger Super Quick Primer B-2100 หรือ Beger Rain Quick Primer B-2900 และทาทับด้วย สีฝ้าเพดานสูตรป้องกันเชื้อรา เช่น BegerShield AirFresh Anti-Virus Gold iON for Ceiling
Q5: มีวิธีป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาอีกไหม?
A: ควรรักษาระดับความชื้นในบ้านให้เหมาะสม ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาและท่อน้ำอย่างสม่ำเสมอ เปิดให้อากาศถ่ายเท และใช้สีทาเพดานที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อรา เพื่อให้ฝ้าเพดานสะอาดและสวยงามยาวนาน
