TH | EN

ปัญหาสีตัดขอบเข้มหรืออ่อนกว่าพื้นผิว (Picture Framing) คืออะไร? พร้อมวิธีแก้แบบมืออาชีพ

Picture Framing หรือ “ปัญหาสีดูเข้มหรืออ่อนกว่าบริเวณขอบ” คือหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่พบได้บ่อยในการทาสีผนัง โดยเฉพาะในงานตกแต่งภายในที่ต้องการความเรียบเนียนไร้ที่ติ ปัญหานี้ทำให้ผนังดูไม่สม่ำเสมอ ราวกับมีกรอบรูปล้อมรอบพื้นที่ จนกระทบต่อความงามโดยรวมของห้องอย่างชัดเจน บทความนี้จะพาคุณเข้าใจ ต้นตอของปัญหา พร้อม วิธีแก้และป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอ้างอิงจากประสบการณ์จริงของช่างมืออาชีพ และแนวทางปฏิบัติที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว

Picture Framing เกิดจากอะไร?

1. เทคนิคการทาไม่สม่ำเสมอ

Picture Framing มักเกิดขึ้นเมื่องานทาสีมีการใช้ แปรงทาสีบริเวณขอบ มุม หรือบริเวณที่เข้าถึงยาก ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของผนังใช้ ลูกกลิ้ง หรือ เครื่องพ่นสี ซึ่งมีลักษณะการปล่อยเนื้อสีที่แตกต่างกันชัดเจน ส่งผลให้ความหนาและลักษณะการแผ่ตัวของฟิล์มสีไม่เท่ากัน เมื่อแห้งแล้วจึงเกิดเส้นขอบสีที่ชัดเจน

2. ฟิล์มสีแห้งไม่พร้อมกัน

หากแปรงขอบไว้ก่อนแล้วปล่อยให้แห้ง ก่อนจะกลิ้งส่วนกลางตามมา จะเกิดการแห้งตัวที่ไม่พร้อมกัน ส่งผลให้เกิดความแตกต่างด้าน ระดับเงา (Sheen Level) หรือ ความเข้มของเฉดสี โดยเฉพาะเมื่อมีแสงสะท้อนบนผนัง ผิวผนังจะดูไม่สม่ำเสมอเหมือนมีกรอบรูปล้อมรอบ

3. พื้นที่แคบหรือมุมอับ

บริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น มุมแคบ ขอบประตู หน้าต่าง หรือหลังตู้ ช่างอาจเลือกใช้แปรงหรือหัวพ่นขนาดเล็ก ซึ่งให้การปิดผิวไม่ดีเท่าลูกกลิ้ง ส่งผลให้สีดูไม่ทั่วถึง หรือเกิด “ขอบเฉด” ต่างระดับกัน

4. การผสมสีไม่ถูกต้อง

หาก ผสมสีไม่ทั่วถึง ใช้แม่สีผิดเบส หรือกวนสีไม่ดี โดยเฉพาะเมื่อเก็บไว้นาน จะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของเฉดสีในแต่ละจุด แม้จะมาจากกระป๋องเดียวกันก็ตาม และนี่คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญของ Picture Framing ที่ผู้ใช้งานมักมองข้าม

วิธีป้องกันและแก้ไข Picture Framing แบบมืออาชีพ

1. ใช้เทคนิค “เปียกทับเปียก” (Wet-on-Wet)

ตัดขอบและกลิ้งต่อทันทีในขณะที่สีบริเวณขอบยังเปียกอยู่ วิธีนี้จะทำให้ฟิล์มสีทั้งขอบและกลางแผ่ตัวผสานกันอย่างแนบเนียน และลดความต่างของเฉด

2. เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม

ใช้ลูกกลิ้งขนสั้นสำหรับพื้นผิวเรียบ และเลือกขนยาวสำหรับพื้นผิวหยาบ หลีกเลี่ยงการใช้แปรงในบริเวณที่สามารถใช้ลูกกลิ้งได้ เพื่อให้ฟิล์มสีมีความหนาและลักษณะเดียวกัน - คลิกเพื่อดูขั้นตอนทาสีเพิ่มเติม

3. ปรับเทคนิคการผสมสี

ก่อนใช้งานควรกวนสีให้ทั่ว หรือหากใช้สีที่เก็บไว้แล้ว ควรนำไปผสมด้วยเครื่องผสมสีที่ได้มาตรฐาน  - คลิกเพื่อดูเครื่องผสมสี

4. หลีกเลี่ยงการทาในสภาพอากาศไม่เหมาะสม

อุณหภูมิที่สูงเกินไปหรือมีลมแรงจะทำให้สีแห้งเร็วเกิน ส่งผลต่อความต่อเนื่องของฟิล์มสี ควรเพิ่มน้ำเล็กน้อย (5–10%) และทำงานต่อเนื่องให้จบผนังในคราวเดียว

เทคนิคพิเศษจากมือโปร:

“ใช้เทปกาวกระดาษติดขอบให้เรียบร้อย แล้วกลิ้งทับขอบในขณะที่สีเปียก จะได้ขอบที่คมชัดและไม่มีรอยกรอบ”

บทสรุป:

Picture Framing เป็นปัญหาที่แม้ดูเล็ก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่เข้าใจต้นเหตุ ก็อาจลดคุณภาพของงานทาสีอย่างมีนัยสำคัญ การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม เทคนิคการทาที่ถูกต้อง และการควบคุมสภาพแวดล้อมระหว่างการทำงาน คือกุญแจสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ได้ตั้งแต่แรก

SHARE :
กรุณาเลือกหมวดหมู่การค้นหา และพิมพ์คำค้นหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง