ปูนกาวเบเยอร์ Beger Cement Tile-Bond ดีอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีการใช้งาน

ปูนกาว หรือกาวซีเมนต์ คือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากซีเมนต์ผสมกับสารยึดเกาะพิเศษ จึงทำให้มีคุณสมบัติการยึดเกาะระหว่างแผ่นกระเบื้องกับพื้นผิวได้ดีกว่าการใช้ปูนซีเมนต์ทั่วไป มักนิยมใช้ในการปูกระเบื้องพื้น กระเบื้องผนัง กระเบื้องแกรนิโต้ กระเบื้องโมเสค กระเบื้องหินอ่อน หรือกระเบื้องเซรามิก

ปูนกาวเบเยอร์ เป็นกาวซีเมนต์ปูกระเบื้องพื้น และผนัง ที่นำเข้าวัตถุดิบคุณภาพจากเยอรมนี ผสานนวัตกรรมพันธะเพชร (Diamond Bond Technology) ทำให้ยึดเกาะแน่นได้ดี 4 เท่า* เมื่อเทียบกับปูนกาวทั่วไป ไม่มีหลุดล่อน รวมทั้งยังรองรับกับกระเบื้องทุกแบบ ทุกประเภท ที่ขนาดสูงสุดถึง 120x120 ซม. ใช้งานง่าย ปาดลื่น มีความทนทานสูง สามารถกันความชื้น และเชื้อราได้ โดยปูนกาวเบเยอร์มีทั้งหมด 3 รุ่นให้เลือกใช้ตามการใช้งาน คือ Beger Cement Tile Bond Expert T-100, Beger Cement Tile Bond Super T-200 และ Beger Cement Tile Bond Premium T-300 

*ทดสอบการยึดเกาะจากสถาบัน Asian Institute of Technology ตามมาตรฐาน ISO 13007 กับผลิตภัณฑ์ Beger Cement Tile Bond Expert T-100

ปูนกาวเบเยอร์ถุงเขียว ไทล์บอนด์ เอ็กเพิร์ท ที-100

ปูนกาวถุงเขียว Beger Cement Tile Bond Expert T-100 เป็นปูนกาวมาตรฐานเหมาะสำหรับงานปูกระเบื้องพื้นและผนังทั่วไป ทั้งภายนอกและภายใน ได้ขนาดสูงสุดถึง 90x90 ซม. สูงกว่ากาวซีเมนต์ทั่วไป (สำหรับขนาด 90x90 ซม. แนะนำเฉพาะพื้นเท่านั้น) สามารถทนทานสภาพอากาศได้ดี ตัวผลิตภัณฑ์มีความยืดหยุ่นจึงช่วยให้เรียงกระเบื้องได้ง่าย

ปูนกาวเบเยอร์ถุงแดง ไทล์บอนด์ ซูเปอร์ ที-200

ปูนกาวถุงแดง Beger Cement Tile Bond Super T-200 เหมาะสำหรับใช้ปูกระเบื้องในพื้นที่ความชื้นสูง เช่น สระว่ายน้ำ รองรับกระเบื้องแผ่นใหญ่สูงสุด 100x100 ซม. (สำหรับขนาด 100x100 ซม. แนะนำเฉพาะพื้นเท่านั้น)  

ปูนกาวเบเยอร์ถุงทอง ไทล์บอนด์ พรีเมียม ที-300

ปูนกาวถุงทอง Beger Cement Tile Bond Premium T-300 กาวซีเมนต์ประสิทธิภาพสูงที่สุดจากเบเยอร์ สามารถยึดเกาะได้ดีเยี่ยม สามารถปูทับได้หลายพื้นผิว เช่น กระเบื้องเดิม ไม้อัด หรือไฟเบอร์ซีเมนต์ ให้ความทนทานทุกสภาวะสูงสุด ทนความชื้นได้สูง ยืดหยุ่นตัวสูง ทนแรงสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการปูกระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษสูงสุด 120x120 ซม. 

เปรียบเทียบคุณสมบัติ ปูนกาวเบเยอร์ ทั้ง 3 รุ่น

*แนะนำให้ใช้กับกระเบื้องปูพื้นเท่านั้น

วิธีใช้งานปูนกาวเบเยอร์

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมพื้นผิว

ก่อนเริ่มใช้งาน ควรทำความสะอาดพื้นผิวของบริเวณที่ต้องการจะติดกระเบื้อง และบริเวณด้านหลังของกระเบื้องให้สะอาด ปราศจากฝุ่นละออง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการยึดเกาะ

ขั้นตอนที่ 2 ผสมปูนกาวตามอัตราส่วน

ให้ผสมปูนกาวกับน้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1  : 3 คือ ปูนกาว 1 ส่วน (20 กิโลกรัม) ต่อน้ำสะอาด 3 ส่วน (4.6 - 4.8 ลิตร) แล้วผสมให้เข้ากัน ด้วยเครื่องผสมรอบต่ำ ทิ้งไว้ 3-5 นาที 

ขั้นตอนที่ 3 การฉาบ

ป้ายปูนกาวที่ผสมได้ที่แล้วบนพื้นผิวที่ต้องการ แล้วใช้เกรียงหวีปาดเป็นร่องตามแนวยาวให้เท่ากัน เพื่อความยึดเกาะแน่นอาจจะทาปูนกาวที่หลังกระเบื้องด้วยก็ได้

ขั้นตอนที่ 4 การปูกระเบื้อง

นำกระเบื้องที่เตรียมไว้มาติดลงบนปูนกาว กดกระเบื้องบนกาวซีเมนต์ เลื่อนจัดระดับโดยใช้อุปกรณ์จัดแนวกระเบื้อง ภายใน 10 - 15 นาที โดยหลังจากปูกระเบื้องเสร็จควรปล่อยให้เซ็ตตัวเต็มที่ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ก่อนเข้าใช้พื้นที่

ขั้นตอนที่ 5 ใช้กาวยาแนวปิดร่องกระเบื้อง

เมื่อซีเมนต์แห้งดีแล้ว ให้นำอุปกรณ์จัดแนวกระเบื้องออก แล้วปิดร่องกระเบื้องด้วย กาวยาแนว เบเยอร์ ไทล์ บอนด์ พลัส ยาแนวกระเบื้องกันราดำและแบคทีเรีย ที่มีให้เลือกใช้งานมากกว่า 10 สี ทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 1 - 3 วันก่อนใช้งาน

คำถามที่พบบ่อย

จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องใช้ปูนกาวปริมาณเท่าไหร่ในการปูกระเบื้อง? 

- ปูนกาวเบเยอร์ 1 ถุง (20 กิโลกรัม) สามารถปูได้พื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 2 - 8 ตร.ม. ขึ้นอยู่กับขนาดและดีไซน์ของกระเบื้อง ดังนั้นแนะนำให้คำนวณปริมาณกระเบื้องที่ต้องใช้ก่อน แล้วจึงจะทราบจำนวนที่ต้องใช้ครับ

ใช้ปูนซีเมนต์ทั่วไปแทน ปูนกาวได้ไหม?

- ไม่ควรครับ เนื่องจากซีเมนต์ทั่วไปมีการยึดเกาะกับพื้นผิวที่ไม่ได้สูงเท่าปูนกาว ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการยึดกระเบื้องโดยเฉพาะจะดีกว่า

การใช้ปูนกาวมีข้อควรระวังอะไรไหม?

- แนะนำว่าให้ใช้ปูนกาวให้ถูกรุ่นตามขนาดกระเบื้องที่รองรับเท่านั้น ซึ่งการที่เลือกใช้ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้กระเบื้องได้รับความเสียหายได้ครับ

อยากได้ปูนกาวที่ทาทับกระเบื้องเดิมได้เลย ไม่ต้องรื้อออก ควรเลือกใช้ปูนกาวเบเยอร์รุ่นไหน?

- กรณีนี้แนะนำเป็นรุ่นถุงทอง Beger Tile-Bond Premium T-300 ครับ