ยูรีเทน 2K คืออะไร?

ยูรีเทน 2K คือระบบเคลือบไม้ชนิดพิเศษที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการงานไม้และการตกแต่งภายใน โดยคำว่า “2K” ย่อมาจาก “Two-Component” หรือการผสมระหว่าง เบส (Base) และ ฮาร์ดเดนเนอร์ (Hardener) ก่อนใช้งานจริง ซึ่งเมื่อผสมกันแล้วจะเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้ฟิล์มสีมีคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วน ความชื้น และสารเคมีได้ดีเยี่ยมกว่าสีเคลือบไม้แบบทั่วไป ยูรีเทน 2K จึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น พื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ภายใน บันไดไม้ เคาน์เตอร์ครัว หรือชิ้นงานที่ต้องการโชว์พื้นผิวไม้ให้เงางามระดับพรีเมียม

การเลือกใช้ยูรีเทน 2K ไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงามให้กับงานไม้ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการซ่อมแซมในระยะยาว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับบ้านหรือพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามควบคู่กับความทนทานอย่างแท้จริง

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการแนะนำอย่างมากจากผู้ใช้งานมืออาชีพ คือ เบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม (Beger Polyurethane 2K Supreme) ซึ่งเป็นสีเคลือบไม้สูตรผสมสองส่วนคุณภาพสูงจากเบเยอร์ ให้ฟิล์มชนิดเงาใสระดับโชว์รูม แห้งไว ทนทาน และไม่มีสารปรอทหรือตะกั่ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการงานไม้ภายในบ้านที่สวยงาม ปลอดภัย และอยู่คงทนได้ยาวนาน

คุณสมบัติเด่น

• ฟิล์มแข็ง ทนรอยขีดข่วนพิเศษ สูงสุดในระบบ PU 2K*     

• แห้งเร็วกว่าโพลียูรีเทนทั่วไป 4 เท่า จบงานภายในไว ภายใน 1 วัน

• ให้ความเงางามสูง และขับเส้นลายไม้ชัดเจน

• เนื้อฟิล์มหนาพิเศษขึ้น 75% เงางาม ทนทาน

• ทนต่อความร้อน ความเย็น กรด ด่าง และสารเคมีได้ดีเยี่ยม

• ปลอดภัยด้วยมาตราฐานยุโรป EN 71 ปราศจากสารโลหะหนักอันตราย 8 ชนิด

• ฟิล์มทนแรงกระแทก (ทิ้งน้ำหนัก 300 กรัม ที่ความสูง 2 m.)

• ป้องกันน้ำซึมเข้าเนื้อไม้ 100%

การใช้งานยูรีเทน 2K อย่างถูกวิธี

ขั้นตอนการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมพื้นผิว

• กรณีไม้เคยทาสีมาก่อนและฟิล์มสีลอกล่อน หรือเป็นไม้เก่าที่ไม่เคยทำสีมาก่อน ให้ขัดด้วยกระดาษทรายจนถึงเนื้อไม้เดิมก่อน จากนั้นให้ทำความสะอาดพื้นพื้นผิวให้ปราศจากคราบไขมัน ฝุ่น น้ำมัน หรือสิ่งแปลกปลอม
• กรณีเป็นไม้ใหม่ให้ขัดเพื่อขจัดเสี้ยนไม้ส่วนเกิน แล้วทำความสะอาดพื้น จากนั้นให้ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากคราบไขมัน ฝุ่น น้ำมัน หรือสิ่งแปลกปลอม
• กรณีที่ไม้มียาง ควรเช็ดทำความสะอาดยางไม้ด้วย เบเยอร์ ทินเนอร์ M-77 (Beger Thinner M-77)
• กรณีมีรอยแตกของไม้ รูไม้ หรือรอยหัวตะปู ให้ทำการอุดโป๊วก่อนด้วย เบเยอร์ วูดฟิลเลอร์ (Beger Wood Filler) ทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นจึงขัดแต่งด้วยกระดาษทรายแล้วทำความสะอาด

ขั้นตอนที่ 2: การทารองพื้น

• เพื่อการปกป้องไม้จากเชื้อรา ปลวก มอด และแมลงกินไม้ แนะนำให้ทาด้วย เบเยอร์ ไดร้ท์ (BegerDrite Wood Preservative) ชนิดทา สีใส สูตรน้ำ หรือสูตรน้ำมัน จำนวน 1 เที่ยว และควรทาให้ครบทั้ง 6 ด้าน
• กรณีพื้นไม้มียาง เช่นไม้แดง ไม้ตะเคียน ไม้หลุมพอ ทาด้วยน้ำยารองพื้นกันยางไม้ เบเยอร์ วูท B-2000 (Beger Wood Sealer B-2000) จำนวน 1 เที่ยว เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ
• กรณีไม้ไม่มียาง ให้ทาด้วย เบเยอร์ แชนดิ้ง ซีลเลอร์ B-5000/599 (2K) (Beger Sanding Sealer B-5000/599 2K) หรือ เบเยอร์ แซนดิ้งซีลเลอร์ B-2400(Beger Sanding Sealer B-2400) จำนวน 2 เที่ยว

ข้อควรระวัง

• ห้ามรองพื้นด้วยแชลแลค หรือแลคเกอร์โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการลอกล่อน
• ห้ามใช้ฝุ่นสี และแชลแลคย้อมสีไม้ เพราะฝุ่นสีจะไปขวางกั้นการยึดเกาะระหว่างเบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม กับเนื้อไม้

ขั้นตอนที่ 3 การทาทับหน้า

กรณีฟิล์มชนิดเงา :

ทาด้วย ทาเบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม P-910 (ชนิดเงา) จำนวน 3-4 เที่ยวอัตราส่วนผสมโดยปริมาตร Part A : Part B = 1:1 พร้อมใช้งาน สามารถทาได้โดยไม่ต้องผสมทินเบอร์ แต่ในกรณีพื้นที่การทาขนาดใหญ่สามารถผสม เบเยอร์ทิมเนอร์ M-50 (Beger Thinner M-50) จำนวน 20% โดยปริมาณ

กรณีฟิล์มชนิดกึ่งเงา :

ทาด้วย เบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม P-910 (ชนิดเงา) จำนวน 2-3 เที่ยว อัตราส่วนผสมโดยปริมาตร Part A : Part B = 1:1 จากนั้น ทาด้วย เบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ชูพรีม P-915 (ชนิดกึ่งเงา) จำนวน 1-2 เที่ยว โดยให้คน Part A : Part B = 1: 1 พร้อมใช้งาน สามารถทาได้โดยไม่ต้องผสมทินเนอร์ ในกรณีพื้นที่การทามีขนาดใหญ่ สามารถผสมเบเยอร์ทินเนอร์ M-50 หรือ เบเยอร์ ทินเนอร์ เอ็ม-59 (Beger Thinner M-59) จำนวน 20% โดยปริมาณ

กรณีฟิล์มชนิดด้าน :

ทาด้วย เบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม P-910 (ชนิดเงา) จำนวน 2-3 เที่ยวอัตราส่วนผสมโดยปริมาตร Part A : Part B = 1:1 จากนั้น ทาด้วยเบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม P-911 (ชนิดด้าน) จำนวน 1-2 เที่ยว โดย Part A ก่อนผสมอัตรา อัตราส่วนผสมโดยปริมาณ Part A : Part B = 1:1 พร้อมใช้งาน สามารถทาได้โดยไม่ต้องผสมทินเนอร์ สำหรับกรณีพื้นที่การทามีขนาดใหญ่ สามารถผสมทินเนอร์ M-50 (Beger Thinner M-50) หรือเบเยอร์ ทินเนอร์ เอ็ม-59 (Beger Thinner M-59) จำนวน 20% โดยปริมาตร

หมายเหตุ:

• โพลียูรีเทน ระบบ 2 ส่วนผสม ควรคนให้เข้ากันก่อนทา และควรหมั่นคนระหว่างทาเพื่อให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันสม่ำเสมอ เบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีมสามารถทาโดยไม่ต้องผสมทินเนอร์ หากต้องการผสมให้ใช้ทินเนอร์ เบเยอร์ M-50 หรือ M-59 โพลียูรีเทนชนิดด้าน (ทุกยี่ห้อ) อาจเกิดปัญหารอยแปรงได้ ทั้งนี้ปัญหารอยแปรงขึ้นอยู่กับสภาพพื้นผิว การผสม วิธีการทา และสภาพพื้นที่แสงตกกระทบ

• กรณีต้องการปรับสีไม้ หรือไม้มีปัญหาสีไม่สม่ำเสมอ หรือมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะพื้นไม้ปาร์เก้ที่ทำจากไม้หลากหลายชนิดมารวมกัน สามารถแก้ไขได้ด้วยการทา เบเยอร์ โพลียูรีเทน B-5000 คัลเลอร์ (Beger B-5000 Colour Polyurethane 2K)

• อัตราส่วน A และ B เข้าด้วยกัน 1:1 โดยไม่ต้องผสมทินเนอร์ อย่างน้อย 2 เที่ยว กรณีพ่นให้ผสม เบเยอร์ ทินเนอร์ M-50 เพียง 0-10% โดยปริมาตร ทาทิ้งให้แห้งตัว 2 - 3 ชั่วโมงก่อนทาทับเที่ยวถัดไปทุกครั้ง

Tip มืออาชีพ:

• ใช้ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทดี หลีกเลี่ยงฝุ่นละอองระหว่างการเคลือบ
• แนะนำให้ใช้แปรงขนอ่อน หรือลูกกลิ้งคุณภาพดีเพื่อไม่ให้เป็นฟอง

สรุป:

เบเยอร์ โพลียูรีเทน 2K ซูพรีม (Beger Polyurethane 2K Supreme) คือคำตอบสำหรับใครที่มองหา “ยูรีเทน 2K” เคลือบไม้คุณภาพสูง ที่ให้ทั้งความเงางาม ทนทาน และปลอดภัย เหมาะกับงานไม้ภายในทุกประเภท

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโพลียูรีเทน 2K

Q1: ยูรีเทน 2K เหมาะกับงานภายนอกหรือไม่?
A1: สามารถใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน (ใต้ร่มแดดส่องถึง)

Q2: ใช้แล้วพื้นจะลื่นหรือไม่?
A2: เมื่อแห้งสนิทแล้วจะไม่ลื่น และสามารถเลือกเกรดผิวด้านหรือกึ่งเงาได้

Q3: เหมาะกับการใช้งานกับอะไร?

A3: เหมาะสำหรับงานไม้ทุกประเภท เช่น พื้นไม้, วงกบ, ประตู, หน้าต่าง, ท็อปโต๊ะ, เฟอร์นิเจอร์ไม้, ระเบียง, บันได