TH | EN

สารตะกั่วในสี: ภัยเงียบที่ควรรู้ และเหตุผลที่ควรเลือกสีปลอดภัย

ความสำคัญของการเลือกใช้สีทาบ้าน

การเลือกสีทาบ้านไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามหรือความทนทานเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับ สุขภาพของคนในบ้าน และ คุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในสารที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมสีมาอย่างยาวนานคือ สารตะกั่ว แม้จะช่วยให้สีสดสวยและคงทน แต่ในความเป็นจริง สารนี้กลับซ่อนภัยต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง

อันตรายและวงจรผลกระทบของสารตะกั่ว (Lead Impact & Cycle)

สารตะกั่วเป็นโลหะหนักที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ หากได้รับเข้าสู่ร่างกายแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสะสมและก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและหญิงตั้งครรภ์ องค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงกับจัดให้สารตะกั่วเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อสุขภาพเด็กทั่วโลก และย้ำว่า ไม่มีระดับการสัมผัสใดที่ถือว่าปลอดภัย

 

วงจรผลกระทบของสารตะกั่ว (Lead Impact Cycle)

ภัยจากสารตะกั่วไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผลลัพธ์ต่อบุคคล แต่ยังแพร่กระจายเป็นวงจรที่เชื่อมโยงตั้งแต่การผลิตไปจนถึงผลกระทบระยะยาวในอนาคต ดังนี้:

1. การผลิตและการใช้งาน (Production & Application)

  • โรงงานผลิตสีที่มีสารตะกั่วเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและทำให้แรงงานได้รับอันตราย
  • ผู้ใช้งาน เช่น ช่างทาสีหรือเจ้าของบ้าน อาจสูดดมไอระเหยหรือสัมผัสสารตะกั่วโดยตรง

2. การเสื่อมสภาพของสี (Degradation & Dust Formation)

  • สีที่มีตะกั่วเมื่อผ่านไปนานจะแตก ลอก และกลายเป็น ฝุ่นตะกั่วขนาดเล็ก
  • ฝุ่นนี้ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศและถูกหายใจเข้าสู่ร่างกายของคนในบ้านโดยไม่รู้ตัว

3. การสะสมในสิ่งแวดล้อม (Environmental Contamination)

  • ฝุ่นและเศษสีตะกั่วตกลงสู่ดินและน้ำ ทำให้เกิดการปนเปื้อนในระบบนิเวศ
  • ตะกั่วสะสมในพืชผัก สัตว์เลี้ยง และสุดท้ายกลับเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์

4. การสะสมในร่างกาย (Bioaccumulation in Human Body)

  • เด็กเล็ก : มักกลืนกินฝุ่นตะกั่วโดยไม่รู้ตัว ส่งผลต่อสมองและพัฒนาการ ทำให้สมาธิสั้นหรือพัฒนาการล่าช้า
  • หญิงตั้งครรภ์และทารก : ตะกั่วผ่านรกไปสู่ทารก ทำให้เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ หรือพัฒนาการผิดปกติ
  • ผู้ใหญ่ : ตะกั่วสะสมในกระดูก ไต และระบบประสาท นำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และไตวาย

5. ผลกระทบข้ามรุ่น (Intergenerational Impact)

  • ตะกั่วที่สะสมในกระดูกของผู้หญิงสามารถถูกปล่อยออกมาในช่วงตั้งครรภ์และให้นมลูก
  • ส่งผลให้ทารกและเด็กเล็กได้รับตะกั่วทางอ้อม แม้ไม่ได้สัมผัสโดยตรง

ทำไมต้องเลือกสีปลอดสารตะกั่ว

แม้ประเทศไทยจะมีมาตรฐานกำหนดให้สีทาบ้านต้องมีปริมาณตะกั่วไม่เกิน 100 ppm (ตามมาตรฐาน มอก.) แต่การตรวจสอบโดยองค์กรสิ่งแวดล้อมยังพบว่า สีบางยี่ห้อมีค่าตะกั่วสูงกว่ามาตรฐานหลายเท่า และบางผลิตภัณฑ์ยังแสดงฉลากว่า “ปลอดสารตะกั่ว” ทั้งที่ตรวจพบตะกั่วปนเปื้อนจริง ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภคโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการเลือกใช้ สีที่ปลอดสารตะกั่วอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามมาตรฐานเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน โดยมีข้อดีที่สำคัญ ได้แก่

  • ปลอดภัยต่อสุขภาพของเด็กและครอบครัว
  • ลดการปนเปื้อนที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
  • ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในระยะยาว

Beger: สีที่ใส่ใจสุขภาพและโลกของคุณ

Beger มุ่งมั่นพัฒนาสีที่ ปลอดจากสารตะกั่ว 100% เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ทุกการทาสีบ้านไม่เพียงให้ความสวยงาม แต่ยังปลอดภัยต่อสุขภาพคนในครอบครัวและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • ปลอดสารตะกั่วและโลหะหนักอันตราย
  • ลดการปล่อยสารระเหย (VOCs) เพื่อคุณภาพอากาศภายในบ้านที่ดีกว่า
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมสีที่ช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งาน
  • โปร่งใสและเชื่อถือได้ ทุกผลิตภัณฑ์ยืนยันชัดเจนเรื่องความปลอดภัยบนฉลาก

สรุป

สารตะกั่วในสีคือภัยเงียบที่ควรตระหนัก เพราะอาจส่งผลร้ายแรงต่อเด็กและครอบครัวโดยไม่รู้ตัว การเลือกสีที่ปลอดสารตะกั่วจึงเป็นการเลือกที่ชาญฉลาด ไม่เพียงเพื่อความสวยงามของบ้าน แต่ยังเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน Beger สีที่แคร์คุณ พร้อมมอบความงาม ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้

SHARE :
Please select the search topic and type related keywords