กาวยาแนว (Tile Grout) เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับงานกระเบื้องที่ใช้ระหว่างสร้างบ้าน รีโนเวท และซ่อมแซมบ้าน ซึ่งไม่ใช่แค่ช่างที่ใช้ แต่ยังมีเจ้าของบ้านเองที่ถนัดทำ DIY หรืออยากซ่อมแซมพื้นที่ในบ้านเองใช้ด้วย บทความนี้จึงรวบรวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อกาวยาแนวมาฝาก งานกระเบื้องจะได้ออกมามีคุณภาพ ทนทาน สวยปังน่าใช้ไปนาน ๆ เลยครับ
1. กาวยาแนวใช้ทำอะไร
ยาแนวเป็นวัสดุที่ใช้ในการอุดร่องรอยต่อกระเบื้องที่เราใช้ปูพื้นและผนังครับ ทำให้กระเบื้องทุกแผ่นเชื่อมต่อกันยึดกระเบื้องไว้ให้อยู่กับที่ มีคุณสมบัติทนทานต่อกรดและน้ำยาทำความสะอาด และยังป้องกันปัญหาน้ำซึมและการเจริญเติบโตของเชื้อราในห้องน้ำอันเป็นต้นเหตุให้บ้านพัง
บางคนอาจสงสัยว่าแล้ว กาวยาแนวชนิดผงผสมน้ำ กับ ยาแนวชนิดหลอดสำเร็จรูป หรือที่เรียกกันว่า ซีลแลนท์ (Sealant) เหมือนกันไหม? ก็ต้องบอกก่อนว่าทั้งกาวยาแนวและซีลแลนท์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้อุดรอยต่อได้เหมือนกัน แต่นำมาใช้แทนกันไม่ได้ เพราะมีคุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน ดังนี้
- กาวยาแนว เหมาะกับงานพื้นและผนังภายในและภายนอก รวมถึงกระเบื้องเซรามิค หินชนวน บล็อกแก้ว ดินเผา หินแกรนิต และหินธรรมชาติ
- ยาแนวหลอดหรือซีลแลนท์ เหมาะกับรอยแตกร้าว รอยต่อกระเบื้องระหว่างพื้นกับผนัง งานอุดร่องทั่วไป งานติดตั้งกรอบประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ และอื่น ๆ
นอกจากนี้ หากเราเอาซีลแลนท์หลอดไปใช้กับงานร่องกระเบื้อง อาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาก และยังได้ประสิทธิภาพการปกป้องและทนทานที่ต่ำลง พื้นห้องน้ำอาจเสื่อมสภาพได้เร็วจนต้องกลับไปซ่อมซ้ำ ๆ ด้วยครับ
2. กาวยาแนวสูตรป้องกันเชื้อราสำคัญอย่างไร
เชื้อราและราดำในห้องน้ำมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง ระบายอากาศได้ไม่ดีหรือไม่มีแสงแดดส่องถึง ซึ่งนอกจากจะทำให้ห้องน้ำเป็นคราบดำ ดูสกปรกและเก่าแล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพของเราได้ด้วยนะครับ โดยเฉพาะกับคนที่โรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เพื่อลดปัญหาเหล่านี้ กาวยาแนวที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราจึงจำเป็นต่อห้องน้ำและห้องครัว ร่วมกับการหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำครับ
3. กาวยาแนวไหนก็ใช้ได้ จริงไหม
ความคิดนี้ไม่จริงครับ เพราะกาวยาแนวแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติเฉพาะที่ต่างกันไป โดยผ่านการคิดค้นและพัฒนาสูตรให้เหมาะงานพื้นและผนังในทุกพื้นที่บ้านหรือเหมาะจะใช้กับพื้นที่บางบริเวณเป็นพิเศษอย่างห้องน้ำหรือห้องครัว เพื่อการปกป้องที่ยาวนานมากขึ้นนั่นเอง การเลือกสูตรที่เหมาะกับแต่ละพื้นที่จึงสำคัญไม่แพ้กันครับ
อย่างเบเยอร์เองก็มีกาวยาแนวคุณสมบัติยึดเกาะสูง ไม่หลุดล่อน แตกร้าว ป้องกันน้ำซึมดีเยี่ยม ทนทานต่อกรดและน้ำยาทำความสะอาด 2 สูตรด้วยกัน ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี ได้แก่
- สูตรสำหรับร่องกระเบื้องพื้นและผนังในที่แห้งทั่วไปอย่าง เบเยอร์ ไทล์-บอนด์ (Beger Tile-Bond) สำหรับร่องกระเบื้องขนาด 2-10 มิลลิเมตร
- สูตรยับยั้งราดำและแบคทีเรีย สำหรับห้องน้ำและห้องครัวโดยเฉพาะอย่าง เบเยอร์ ไทล์-บอนด์ พลัส (Beger Tile-Bond Plus) สำหรับร่องกระเบื้องขนาด 1-6 มิลลิเมตร ลดการสะสมของคราบสกปรกฝังแน่น หมดกังวลเรื่องเชื้อราหรือราดำในห้องน้ำได้เลย
เรื่องเฉดสีของกาวยาแนวก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางคนอาจไม่ชอบใช้ยาแนวสีม่วงเพื่อไปตัดกับกระเบื้องสีแดง ทำให้ดูไม่กลมกลืนกับบรรยากาศของห้องครับ ดังนั้น จึงควรเลือกกาวยาแนวที่มีสีให้เลือกอย่างครอบคลุม จะได้เลือกสีที่เข้ากับกระเบื้องของเรามากกว่า ไม่ใช่ว่าจะใช้อะไรหรือสีไหนก็ได้ครับ โดยกาวยาแนวเบเยอร์ก็มีให้เลือกหลายเฉดสีเลยครับ
3 ข้อควรรู้ที่เบเยอร์คัดมาให้ทุกคนเป็นเพียงข้อหลัก ๆ ส่วนหนึ่ง ยังมีรายละเอียดยิบย่อยที่แต่ละบ้านให้ความสำคัญอีกไม่น้อยเลยครับ ทั้งในเรื่องข้อจำกัด ค่าใช้จ่าย และช่าง แต่มั่นใจได้เลยว่า การเลือกใช้กาวยาแนวที่มีคุณภาพตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเสริมการปกป้องให้บ้านของเราได้ยาวนานครับ