เปลี่ยนห้องน้ำหมอง ๆ ให้กลับมาสะอาด สดชื่น และปลอดภัยจากเชื้อรา ด้วยวิธีดูแลที่คุณก็ทำเองได้ง่าย ๆ
เชื้อราดำ หรือ Black Mold เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่เติบโตได้ดีในพื้นที่อับชื้น โดยเฉพาะในห้องน้ำบริเวณที่ไม่มีแสงแดดหรือระบายอากาศไม่ดี โดยมักปรากฏเป็น คราบดำหรือเขียวเข้มตามร่องยาแนว พื้นและผนัง ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นแค่ปัญหาความสะอาด แต่ความจริงแล้ว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้มากกว่าที่คิด
เชื้อราดำ หรือที่เรียกในทางวิทยาศาสตร์ว่า Stachybotrys chartarum เป็นหนึ่งในเชื้อราชนิดอันตรายที่มักพบในบริเวณที่มีความชื้นสะสมและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยเฉพาะ โซนเปียกในห้องน้ำ เช่น บริเวณร่องยาแนวกระเบื้อง ผนัง หรือพื้นห้องน้ำ ที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง เชื้อราชนิดนี้จะปรากฏให้เห็นในลักษณะของ คราบสีดำหรือเขียวเข้ม ฝังแน่นอยู่ตามรอยต่อกระเบื้อง ซึ่งนอกจากจะดูไม่สะอาดแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง แม้ในบางกรณี เชื้อราดำอาจไม่ส่งผลร้ายแรงต่อคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้เชื้อรา หรือภูมิคุ้มกันต่ำ การสูดดมสปอร์ของเชื้อราดำที่ลอยอยู่ในอากาศ หรือสัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง อาจกระตุ้นให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ไอเรื้อรัง จามบ่อย คัดจมูก ระคายเคืองตา เจ็บคอ ไปจนถึงผื่นคันตามร่างกาย และในบางรายอาจถึงขั้น หายใจมีเสียงหวีดหรืออาการกำเริบของโรคหอบหืด ได้เลย
สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือ หากปล่อยไว้โดยไม่กำจัด เชื้อราดำสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่เปียกชื้น และอาจทำให้อาการเจ็บป่วยเดิม รุนแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการป้องกันและจัดการเชื้อราดำตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทั้งเพื่อสุขภาพของคนในบ้าน และความสะอาดของพื้นที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน
7 วิธีจัดการราดำในห้องน้ำให้สิ้นซาก ทำง่ายด้วยตัวเอง
ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพแม้เพียงเล็กน้อยหรือไม่อยากให้ห้องน้ำดูไม่สะอาดสะอ้านควรหมั่นทำความสะอาด และกำจัดคราบราดำในห้องน้ำเป็นประจำนะครับ โดยเบเยอร์ได้เลือกวิธีกำจัดราดำง่าย ๆ ด้วยตัวเองฝากทุกคนแล้วครับ
1. น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ
เทน้ำส้มสายชูลงบนคราบราดำในร่องยาแนว ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้เหมาะกับพื้นผิวทั่วไป แต่ควรหลีกเลี่ยงบนหินอ่อนหรือหินแกรนิต เพราะอาจกัดผิวได้
2. ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำอุ่น
ทำเป็นเนื้อข้นแล้วป้ายตามจุดที่มีเชื้อรา จากนั้นใช้แปรงขัดเบา ๆ แล้วล้างออก เป็นสูตรที่ปลอดภัยและไม่มีกลิ่นแรง
3. น้ำยาฟอกขาวเจือจาง
ฉีดพ่นบนคราบ ทิ้งไว้ 15–30 นาทีแล้วขัดออก ควรสวมถุงมือและหน้ากากขณะใช้งาน และ ห้ามผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำเด็ดขาด เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
4. แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ
ใช้สำหรับราดำใหม่ ๆ หรือไม่แพร่กระจายมากนัก ฉีดพ่นหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์จะช่วยหยุดการเติบโตของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ติดพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ
ช่วยลดความชื้นสะสมจากไอน้ำหลังอาบน้ำ ยิ่งมีการใช้น้ำอุ่นเป็นประจำ การติดพัดลมดูดอากาศจะช่วยลดปัญหาราดำได้ในระยะยาว
6. เปิดหน้าต่าง หรือมีช่องระบายอากาศ
การมีแสงแดดและลมผ่านเข้ามาจะช่วยลดความชื้นในห้องน้ำ ทำให้คราบราดำและกลิ่นอับหมดไป และยังช่วยประหยัดไฟจากการใช้พัดลมได้อีกด้วย
7. ใช้กาวยาแนวที่ป้องกันเชื้อราได้
นอกจากการทำความสะอาดแล้ว การเลือกใช้ กาวยาแนวที่มีสารป้องกันเชื้อราโดยเฉพาะ ก็เป็นการป้องกันที่ต้นทาง และช่วยให้ห้องน้ำสะอาดได้นานยิ่งขึ้น
แนะนำผลิตภัณฑ์: กาวยาแนวเบเยอร์ ไทล์บอน พลัส (Beger Tile-Bond Plus)
กาวยาแนวเบเยอร์ ไทล์บอน พลัส (Beger Tile-Bond Plus) คือกาวยาแนวที่ออกแบบมาสำหรับร่องยาแนวโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติ:
- ผสมสารยับยั้งเชื้อรา ราดำ และแบคทีเรีย
- ป้องกันการซึมของน้ำและทนต่อกรด น้ำยาทำความสะอาด
- มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย (เหมาะกับร่องขนาด 1–6 มม.)
หากเชื้อราดำลุกลามมาก ควรซ่อมยาแนวใหม่
กรณีที่ราดำฝังแน่นในร่องยาแนวเก่าหรือเกิดซ้ำ ๆ แม้จะทำความสะอาดแล้ว อาจจำเป็นต้อง รื้อยาแนวเดิมและอุดใหม่ ซึ่งสามารถทำเองได้ไม่ยาก
วิดีโอสอนซ่อมยาแนวด้วยตัวเอง
? คลิกชมวิดีโอสั้น: “การซ่อมยาแนว ทำได้เองง่าย ๆ แบบมือใหม่”
สรุป: จัดการราดำก่อนจะสายเกินแก้
อย่าปล่อยให้เชื้อราดำกลายเป็นภัยเงียบในบ้านของคุณ เพียงหมั่นดูแลห้องน้ำอย่างถูกวิธี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และเพิ่มการระบายอากาศในพื้นที่เปียก ก็สามารถป้องกันและลดปัญหาราดำได้อย่างยั่งยืน
หากใครมีความกังวลในเรื่องซ่อมยาแนว ราดำในห้องน้ำ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ยาแนวเบเยอร์ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราโดยตรงที่ Line: @begerpaint ในวันและเวลาทำการ