TH | EN

Galvanized Steel Coating Guide

เหล็กกัลวาไนซ์ คือเหล็กที่มีความแข็งแรงคงทนไม่ต่างจากเหล็กทั่วไป แต่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าเรื่องการกันสนิมได้ดี เนื่องจากผ่านกระบวนการนำเหล็กรูปพรรณ หรือเหล็กกล่องไปชุบ หรือเคลือบด้วยสังกะสี  (Zinc) ทำให้มีลักษณะเป็นสีเงินผิวมันวาว นิยมนำมาใช้กับงานกลางแจ้ง เช่น รั้ว โครงหลังคา รางน้ำฝน เสาต่างๆ หรือจุดที่ต้องโดนความชื้น หรือโดนฝนบ่อยๆ

 

เหล็กกัลวาไนซ์คืออะไร

เลือกอ่านตามหัวข้อ
วิธีทาสีเหล็กกัลวาไนซ์แบบเก่า
   > ขั้นตอนที่ 1 เตรียมพื้นผิว
   > ขั้นตอนที่ 2 ทาวอชไพร์เมอร์
   > ขั้นตอนที่ 3 ทาสีรองพื้นกันสนิม
   > สีรองพื้นกันสนิมคืออะไร
   > ขั้นตอนที่ 4 ทาสีน้ำมันเคลือบเหล็ก


เทคนิคทาสีเหล็กกัลวาไนซ์แบบใหม่ ที่แห้งไวกว่า
   > ขั้นตอนที่ 1 เตรียมพื้นผิว
   > ขั้นตอนที่ 2 ทาสีทับหน้า ด้วย เบเยอร์ชิลด์ กริปเทค ทูอินวัน

 

หากคุณไม่ชอบโทนสีเงินเงาของ เหล็กกัลวาไนซ์ แบบดิบ ๆ การเลือก ทาสีน้ำมันเพื่อเปลี่ยนเฉดสี ก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ด้านความสวยงาม แต่ในวิธีดั้งเดิมนั้น ต้องใช้หลายขั้นตอน เช่น การทาวอชไพร์เมอร์ → สีรองพื้นกันสนิม → สีทับหน้าอีก 2 เที่ยว ซึ่งกินเวลานานหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน

แต่ในปัจจุบัน คุณสามารถ ทาเหล็กกัลวาไนซ์ได้ง่ายและเร็วกว่าเดิมมาก ด้วยนวัตกรรมสีจากเบเยอร์ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นแยก และยัง แห้งไวภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง ช่วยให้คุณจบงานได้ในขั้นตอนเดียว พร้อมฟิล์มสีที่ ยึดเกาะแน่น ทนแดด ทนฝน และช่วยป้องกันสนิมได้ในระยะยาว

วิธีเลือกสีทาเหล็กกัลวาไนซ์ เลือกแบบไหนดี

 

ทำความรู้จักการทาสีเหล็กกัลวาไนซ์ แบบเดิม

ในอดีต การทาสีบนผิว เหล็กกัลวาไนซ์ หรือเหล็กที่มีผิวมันเงาแบบชุบสังกะสี จำเป็นต้อง ทาสีรองพื้นพิเศษก่อน เนื่องจากผิวโลหะประเภทนี้มีความลื่นและมันวาวสูง ทำให้ สีทับหน้าทั่วไปไม่สามารถยึดเกาะได้ดี ระบบเดิมจึงต้องใช้หลายขั้นตอน เช่น

1. ทารองพื้นวอชไพร์เมอร์ (Wash Primer) เพื่อเปิดผิวและช่วยการยึดเกาะ

2. ลงรองพื้นกันสนิม เพิ่มชั้นปกป้อง

3. ทาสีน้ำมันทับหน้า 2 เที่ยว เพื่อให้ฟิล์มสีสวย เงางาม และทนทาน

 

การทาสีเหล็กกัลวาไนซ์แบบเก่า

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมพื้นผิวให้พร้อมก่อนลงสี

ไม่ว่าจะทาสีเหล็กในระบบใด หรือจะเป็น เหล็กใหม่หรือเหล็กเก่า การเตรียมพื้นผิวให้สะอาดคือหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อ การยึดเกาะของฟิล์มสี และ อายุการใช้งาน

พื้นผิวเหล็กเก่า

  • หากมีสีเดิมที่เสื่อมสภาพ ให้ขูดลอกหรือล้างออก โดยใช้เกรียง ขัดกระดาษทราย หรือ น้ำยาลอกสี เบเยอร์ยูนิซ็อฟ 9119
  • หากมีสนิม ควรขัดสนิมออกให้มากที่สุดด้วย กระดาษทรายหรือเครื่องขัด
  • หากเป็นเหล็กเก่าที่เคยทาสีไว้และฟิล์มสียังดีอยู่ ให้เพียงแค่ทำความสะอาดฝุ่น คราบไขมัน และน้ำมัน

พื้นผิวเหล็กใหม่

  • มักมีน้ำมันเคลือบป้องกันสนิมจากโรงงาน ให้ใช้ผ้าชุบทินเนอร์ เช่น Beger Thinner M-77 เช็ดออกให้หมด จากนั้นล้างผิวให้สะอาด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มี คราบไขมัน ฝุ่น หรือคราบน้ำมัน ที่ขัดขวางการยึดเกาะของสี

 

ผลิตภัณฑ์เตรียมพื้นผิวก่อนทาสีเหล็กกัลวาไนซ์

ขั้นตอนที่ 2: ทาวอชไพร์เมอร์ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะบนเหล็กกัลวาไนซ์ใหม่

พื้นผิวเหล็กกัลวาไนซ์ใหม่ มักมีลักษณะ เรียบ มันวาว และลื่น ซึ่งอาจทำให้สีทับหน้าที่ทาลงไป ยึดเกาะไม่ดีและลอกล่อนในเวลาอันสั้น เพื่อแก้ปัญหานี้ จึงจำเป็นต้องใช้ วอชไพร์เมอร์ (Wash Primer) ช่วย “เปิดผิว” ให้เกิดความสากเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยให้ สีชั้นถัดไปเกาะแน่นขึ้น และยืดอายุการใช้งานของสีไปได้อีกหลายปี

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่แนะนำคือ Beger Wash Primer B-922 ซึ่งเป็นสีรองพื้นชนิด ผสม 2 ส่วน (Part A : Part B) โดยใช้ อัตราส่วนผสม A : B = 4 : 1 หลังจากผสมแล้วสามารถ ทาด้วยแปรง พ่น หรือใช้ลูกกลิ้ง ได้ตามสะดวก โดยปล่อยให้แห้งประมาณ 30–60 นาที ก่อนลงสีชั้นถัดไป

หมายเหตุ: วอชไพร์เมอร์เหมาะกับโลหะมันวาวทุกชนิด เช่น เหล็กกัลวาไนซ์ อลูมิเนียม และสังกะสี หากไม่ผ่านขั้นตอนนี้ ฟิล์มสีอาจลอกง่ายแม้ใช้สีคุณภาพสูง

วอชไพร์เมอร์ ทาสีเหล็กกัลวาไนซ์

 

ขั้นตอนที่ 3: การทาสีรองพื้นกันสนิม

หลังจากทา วอชไพร์เมอร์ แล้ว พื้นผิวเหล็กกัลวาไนซ์ที่เคยเรียบลื่นจะเปลี่ยนเป็นผิวสัมผัสแบบสาก ซึ่งช่วยให้สีสามารถยึดเกาะได้ดีขึ้น แม้ในขั้นตอนนี้จะสามารถ ทาสีน้ำมันทับหน้าได้เลย แต่หากต้องการเพิ่ม ชั้นป้องกันสนิมให้ครอบคลุมและยาวนานยิ่งขึ้น การทา สีรองพื้นกันสนิม เพิ่มอีกหนึ่งชั้นถือเป็นทางเลือกที่แนะนำ แม้ว่าเหล็กกัลวาไนซ์จะมีคุณสมบัติกันสนิมในตัว แต่ จุดที่เป็นรอยเจาะ รอยเชื่อม หรือรอยตะปู มักสูญเสียการปกป้องเหล่านั้น สีรองพื้นกันสนิมจึงมีบทบาทสำคัญในการ เคลือบจุดเสี่ยงเหล่านี้ไม่ให้เกิดสนิมซ้ำ

โดยทั่วไป สีรองพื้นกันสนิมจะมีให้เลือกใช้งานหลายประเภท เช่น:

  • สีรองพื้นแดงกันสนิม เป็นสีน้ำมันอัลคีดเรซินประเภทหนึ่งที่ผสมกับผงสีตะกั่วแดง(สีเสน) ให้เฉดส้มแดงๆ เหมาะกับพื้นผิวเหล็กใหม่ หรือเหล็กเก่าสภาพดี ได้แก่ เบเยอร์ชิลด์ บี-933 
  • สีรองพื้นเทากันสนิม เป็นสีน้ำมันอัลคีดเรซินประเภทหนึ่งที่ผสมกับผงสีซิงค์ฟอสเฟต ให้เฉดเทา เหมาะกับพื้นผิวเหล็กใหม่ หรือเหล็กเก่าสภาพดี ได้แก่ เบเยอร์ชิลด์ บี-911
  • สีรองพื้นกันสนิมอีพ็อกซี่ชนิดสองส่วน เป็นรองพื้นกันสนิมที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด เกรดเดียวกับสีอุตสาหกรรมที่มีความทนทานสูง ทำให้สามารถหยุดสนิมได้ทันที เหมาะกับเหล็กเก่าที่มีปัญหาสนิมอยู่ก่อนแล้ว หรือเหล็กใหม่ที่ต้องการความทนทานสูง ได้แก่ เบเยอร์ รัสท์ การ์ด ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้ Beger Rust Guard แทนสีทับหน้าของงานภายในได้เลย

ปกติเราจะทาสีรองพื้นกันสนิม 1 เที่ยว และใช้เวลาแห้งประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง แล้วจึงเริ่มทาสีน้ำมันเคลือบชั้นสุดท้าย

 

สีรองพื้นกันสนิม เบเยอร์ รองพื้นแดงกันสนิม รองพื้นเทากันสนิม และรองพื้นกันสนิมอิพ็อกซี่ระบบสองส่วน

ขั้นตอนที่ 4: ทาสีเคลือบเงา เพิ่มความสวยงามและปกป้องผิวเหล็กอย่างยาวนาน

หลังจากที่สีรองพื้นกันสนิมแห้งสนิทแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ ทาสีเคลือบเงา เพื่อเพิ่มความเรียบเนียน เงางาม และช่วยปกป้องผิวเหล็กจากรังสี UV ความชื้น และฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

วิธีการใช้งาน: ให้ทาสีเคลือบเงาจำนวน 2 เที่ยว โดยเว้นระยะให้สีแต่ละชั้น แห้งอย่างน้อย 8–10 ชั่วโมง เพื่อให้ฟิล์มสีเซตตัวได้สมบูรณ์ก่อนลงเที่ยวถัดไป สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบ พ่น แปรง หรือ ลูกกลิ้ง ตามความถนัด สีเคลือบเงาเบเยอร์ชิลด์ ไดมอนด์ ซุปเปอร์กลอส อีนาเมล , เบเยอร์ชิลด์ ซุปเปอร์กลอส อีนาเมลเบเยอร์คูล ซุปเปอร์กลอส อีนาเมล , สีน้ำมันเบเยอร์ ดูราเมล (สำหรับพื้นผิวที่ต้องการความทนทานมากที่สุด) หรือ สีน้ำมันกระทิง เป็นต้น

 

สีน้ำมันเคลือบเงาเบเยอร์

วิธีทาสีเหล็กกัลวาไนซ์ แบบใหม่

การทาสีเหล็กกัลวาไนซ์แบบใหม่ คือการใช้ผลิตภัณฑ์สีเคลือบเงาชนิดพิเศษ ที่มีส่วนผสมของรองพื้นกันสนิมมาให้ในตัว ทำให้ลดขั้นตอนการทาวอชไพร์เมอร์ หรือรองพื้นลง จึงทำให้ช่วยลดเวลาการทำงานได้เป็นอย่างมาก โดยสีทาเหล็ก 2 in 1 ประเภทนี้ จะแห้งไวกว่าการทาสีเหล็กกัลวาไนซ์แบบเก่า เป็นอย่างมาก ได้แก่ สีเคลือบเงาเหล็ก เบเยอร์ชิลด์ กริปเทค ทูอินวัน ที่เป็นสีทาเหล็กไม่ต้องทารองพื้น

 

การทาสีเหล็กกัลวาไนซ์แบบใหม่ แห้งไว กันสนิม

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมพื้นผิว

การเตรียมพื้นผิวของการทาแบบใหม่ จะเหมือนกับการทาสีแบบเก่าเลย คือ ทำความสะอาดให้ไม่มีฝุ่น คราบสกปรกใดๆ และเพื่อให้ยึดเกาะพื้นผิวขั้นสูงสุด อาจจะหากระดาษทรายเบอร์ละเอียดมาขัดลูบบนพื้นผิวเล็กน้อย

พื้นผิวเหล็กกัลวาไนซ์เก่า

  • ถ้าสภาพผิวเดิมเสื่อม หลุดล่อน จำเป็นต้องขูดลอกสีเก่าออกก่อน หรือใช้น้ำยาลอกสีเบเยอร์ ทำการลอกสีเดิมออก แล้วจึงทำความสะอาดพื้นผิวตามระบบ 
  • ถ้าสภาพผิวเดิมมีสนิม ให้พยายามขัดสนิมออกให้ได้มากที่สุด แล้วจึงทำความสะอาดพื้นผิว
  • ถ้าสภาพผิวเดิมยังสมบูรณ์ หรือเป็นหลักที่ยังไม่ได้ทำสีมาก่อน

พื้นผิวเหล็กกัลวาไนซ์ใหม่

  • เหล็กกัลวาไนซ์ใหม่ส่วนมากจะมีน้ำมันเคลือบอยู่เพื่อถนอมคุณภาพเหล็ก ซึ่งก่อนจะนำเหล็กนั้นไปทาสีใหม่ จำเป็นต้องเอาน้ำมันเคลือบนั้นออก โดยให้ใช้ผ้าชุบทินเนอร์ เบเยอร์ M-77 หมาดๆ เช็ดออก  

ขั้นตอนที่ 2 ทาสีเคลือบเงา อเนกประสงค์ 2 In 1

หลังจากเตรียมพื้นผิวเสร็จแล้ว ก็สามารถทาสีน้ำมันทาเหล็กอเนกประสงค์ BegerShield Griptech 2 In 1 ได้เลย โดยไม่ต้องใช้วอชไพร์เมอร์ หรือรองพื้นกันสนิม จำนวน 2 เที่ยว เว้นระยะเวลาแห้งแต่ละเที่ยวเพียง 30 นาที เท่านั้น คุณก็จะได้สีเหล็กกัลวาไนซ์ที่เงาสวยโดนใจ ซึ่งข้อดีของกริปเทค คือเป็นสีสูตรอะคริลิกทำให้ทนทานกว่าสีน้ำมันทั่วไปที่เป็นแอลคีด และไม่เหลืองตัว

 

สรุป

  • ขั้นตอน การทาสีเหล็กกัลวาไนซ์  แบบเก่า จะต้องเตรียมพื้นผิว ใช้วอชไพร์เมอร์ ใช้รองพื้นกันสนิม แล้วจึงทาสีน้ำมันทับหน้า
  • ในปัจจุบันสีทาเหล็กกัลวาไนซ์ ถูกพัฒนาด้วยนวัตกรรมสีแบบใหม่ เช่น สีเบเยอร์ชิลด์ กริปเทค ทูอินวัน เป็นสีทาเหล็กไม่ต้องทารองพื้นกันสนิม และไม่จำเป็นต้องใช้วอชไพร์เมอร์ ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และลดเวลาในการจบงานได้ดีกว่าแบบเดิม เพราะไม่ต้องทาสีรองพื้นกันสนิม หรือวอชไพร์เมอร์ อีกทั้งยังแห้งไว
  • หากต้องการทาสีเหล็กกัลวาไนซ์ในหน้าฝน แนะนำให้ใช้วิธีใหม่จะจบงานได้ไวกว่า
SHARE :
    Please select the search topic and type related keywords