ปูนกาวปูกระเบื้อง เลือกอย่างไรให้ยึดเกาะแน่น ต่างจากปูนซีเมนต์ทั่วไปอย่างไร?

บ้านที่มั่นคงเริ่มต้นจากโครงสร้างที่แข็งแรง เริ่มต้นจากการเลือกวัสดุที่เหมาะสม

ปัจจุบันพบว่า กว่า 70% ของบ้านในประเทศไทย นิยมใช้วัสดุประเภท "คอนกรีต" เป็นโครงสร้างหลัก เนื่องจากมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน คอนกรีตเป็นวัสดุที่ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ หิน ทรายกรวด และน้ำ ซึ่งเมื่อผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสมจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีและแข็งตัว กลายเป็นโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโครงสร้างที่ดี แต่หากผนังคอนกรีตมีปัญหา เช่น ผิวไม่เรียบ มีรอยแตกร้าว หรือเกิดการหลุดล่อน ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งความสวยงามและความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในขั้นตอนของการปูกระเบื้อง ซึ่งต้องอาศัยวัสดุปูนที่มีคุณสมบัติยึดเกาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะนำเสนอความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับประเภทของปูนซีเมนต์ การเลือกใช้ปูนกาวซีเมนต์ให้เหมาะสมกับงานปูกระเบื้อง ตลอดจนการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เพื่อให้งานปูกระเบื้องของคุณเรียบเนียน แข็งแรง และใช้งานได้อย่างยาวนาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปูนซีเมนต์และการปูกระเบื้อง

1. ปูนซีเมนต์มีกี่ประเภท และแตกต่างกันอย่างไร?

ปูนซีเมนต์แบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยสามารถสรุปได้หลัก ๆ ดังนี้:

• ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทั่วไป: เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง เช่น เสา คาน พื้น ฐานราก
• ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป: ใช้งานสะดวก บรรจุถุงพร้อมใช้งาน เหมาะสำหรับงานฉาบ ปรับระดับ หรือเทปรับพื้น
• ปูนกาวซีเมนต์: พัฒนาเพื่อการปูกระเบื้องโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติในการยึดเกาะสูงและทนความชื้นได้ดี

2. ปูนกาวซีเมนต์ แตกต่างจากปูนซีเมนต์ทั่วไปอย่างไร?

ปูนกาวซีเมนต์ได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อใช้ในงานปูกระเบื้อง มีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

• มีแรงยึดเกาะสูง เหมาะกับการใช้งานบนพื้นและผนัง
• เนื้อเหนียว ไม่ไหลย้อย ใช้งานง่ายแม้ในแนวตั้ง
• ลดความเสี่ยงต่อการหลุดล่อนของกระเบื้อง

ในขณะที่ปูนซีเมนต์ทั่วไปแม้จะแข็งแรง แต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อยึดติดกับพื้นผิวกระเบื้องหรือวัสดุที่ไม่ดูดซึมน้ำ จึงไม่ควรนำมาใช้แทนปูนกาว

3. ปูนกาวซีเมนต์มีกี่ประเภท และเหมาะกับงานแบบใด?

ผลิตภัณฑ์จาก Beger แนะนำปูนกาวซีเมนต์ 3 รุ่น ได้แก่:

• Beger Tile-Bond Expert T-100 (สีเขียว):

          เหมาะสำหรับกระเบื้องขนาดมาตรฐาน ใช้งานได้ทั้งพื้นและผนัง รองรับกระเบื้องขนาดสูงสุด 90x90 ซม.

• Beger Tile-Bond Super T-200 (สีแดง):

         เหมาะกับกระเบื้องแผ่นใหญ่ หรือใช้ในบริเวณที่มีความชื้น เช่น สระว่ายน้ำ รองรับกระเบื้องขนาด 100x100 ซม.

• Beger Tile-Bond Premium T-300 (สีทอง):

          รองรับกระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษ ใช้ได้กับกระเบื้องเดิม ไม้ยาง หินแกรนิต หรือไฟเบอร์ซีเมนต์ รองรับขนาดสูงสุด 120x120 ซม.

4. สามารถใช้ปูนซีเมนต์ธรรมดาแทนปูนกาวซีเมนต์ได้หรือไม่?

ไม่แนะนำ เนื่องจากปูนซีเมนต์ทั่วไปไม่มีคุณสมบัติด้านแรงยึดเกาะสูง โดยเฉพาะกับพื้นผิวที่ไม่ดูดซึมน้ำ เช่น กระเบื้องหรือหินธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหลุดล่อนในระยะยาว

5. ปูนกาวสามารถทาทับกระเบื้องเก่าได้หรือไม่?

สามารถทำได้ หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับลักษณะงานดังกล่าว เช่น Beger Tile-Bond Premium T-300 ที่สามารถยึดติดกับพื้นผิวหลากหลายประเภท รวมถึงกระเบื้องเก่า ไม้เทียม และวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์

สรุป

การเลือกใช้ปูนกาวซีเมนต์ให้เหมาะสมกับประเภทของงานปูกระเบื้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของงานโดยรวม ทั้งในด้านความแข็งแรง ความเรียบเนียน และอายุการใช้งาน การลงทุนในผลิตภัณฑ์คุณภาพ เช่น Beger Tile-Bond Series คือทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับเจ้าของบ้าน ช่างผู้เชี่ยวชาญ และผู้รับเหมามืออาชีพ หากต้องการให้พื้นและผนังของคุณสวยเนี๊ยบ ยึดเกาะแน่น ทนทานยาวนาน ปูนกาวคุณภาพคือคำตอบที่ใช่

ค้นหาร้านค้าที่จำหน่ายใกล้คุณ >> คลิกที่นี่เพื่อค้นหาร้านค้าใกล้ฉัน

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของ Beger พร้อมให้คำแนะนำฟรี! >> คลิกเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่