
คราบ เชื้อราและตะไคร่น้ำ เป็นปัญหาที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ผนังปูน พื้นรอบบ้าน หรือบริเวณที่โดนฝนบ่อย ๆ ปัญหานี้ไม่เพียงทำให้บ้านดูสกปรกและทรุดโทรม แต่ยังแฝงอันตรายต่อสุขภาพของคนในครอบครัวด้วย การทำความสะอาดด้วยการขัดล้างเพียงอย่างเดียว อาจช่วยให้คราบหายไปชั่วคราว แต่ไม่นานเชื้อราก็มักกลับมาใหม่ เนื่องจากการแก้ไขไม่ได้จัดการถึง “ต้นเหตุ” ของเชื้อราและตะไคร่น้ำ บทความนี้จึงจะมาอธิบายทั้ง อันตราย วิธีแก้ไข และวิธีป้องกันอย่างได้ผล พร้อมแนวทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ปัญหานี้หายขาดได้จริง
เชื้อราและตะไคร่น้ำในบ้าน อันตรายอย่างไร?
1. อันตรายต่อสุขภาพ
- ทำให้เกิดภูมิแพ้ หายใจติดขัด ไอ หรือคัดจมูก
- เสี่ยงโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
- เชื้อราบางชนิดสร้าง สารพิษ (Mycotoxin) คือ หรือสารพิษจากราเป็นสารพิษที่ผลิตจากเชื้อรา (mold) สารนี้อาจจะเป็นพิษหรือทำให้เกิดผลร้ายต่อสิ่งที่มีชีวิตต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์ และ/หรือคนได้ เมื่อคนหรือสัตว์ได้รับเข้าไปแม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย จะทำให้เกิดอาการพิษ (mycotoxicosis) ที่อาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังได้
2. ความเสียหายต่อบ้าน
- เชื้อราทำให้ผนัง ฝ้า และเฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพเร็ว
- ตะไคร่น้ำทำให้พื้นและผนังลื่น เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- บ้านดูทรุดโทรม ขาดความน่าอยู่
วิธีแก้ไขเชื้อราและตะไคร่น้ำ
1. ทำความสะอาดพื้นผิว
- ใช้แปรง หรือน้ำยาซักผ้าขาว (ที่มีส่วนผสมของ Sodium Hypochlorite) เช็ดขัดคราบออก (แล้วควรรีบเช็ดล้างน้ำยาออก ด้วยทิ้งไว้นานสีอาจจะซีดจาง-ด่างดวงได้) และกรณีงาน ภายนอกหากใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงมาช่วยงาน ก็จะทำให้การเตรียมพื้นผิวได้คุณภาพดีมากขึ้น
- ถ้าคราบฝังแน่น ควรใช้น้ำยากำจัดเชื้อราโดยตรง
2. เลือกใช้น้ำยากำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติแก้ปัญหานี้โดยตรงจะช่วยให้กำจัดได้ถึงรากและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก
หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ Beger Mouldfree M-001 น้ำยากำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำสูตรพิเศษ ที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย
ทำไมต้องเลือก Beger Mouldfree M-001?
- กำจัดถึงราก : ฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำได้จริง ไม่ใช่แค่ผิวหน้า
- ป้องกันยาวนาน : ส่วนผสมพิเศษช่วยยึดเกาะและป้องกันคราบกลับมาใหม่
- สูตรน้ำ ปลอดภัย : กลิ่นไม่ฉุน ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก
- ใช้งานง่าย : ทาแล้วไม่ต้องล้างออก สามารถทาสีทับได้เลย
วิธีใช้ Beger Mouldfree M-001
- ทำความสะอาดพื้นที่ที่มีเชื้อราหรือตะไคร่น้ำ
- ทา Beger Mouldfree M-001 ลงบนผนังหรือพื้นผิว
- ปล่อยให้แห้ง สามารถทาสีทับเพื่อเพิ่มความสวยงามและการปกป้อง(ควรทาทับหน้าฝายใน 7 วัน)
เคล็ดลับป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ
- ให้มีการระบายอากาศ - ถ่ายเท ภายในบ้านให้ดี
- หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำ ร่องยาแนว และพื้นที่อับชื้น
- ใช้ระบบงานสีที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ โดยใช้ สีรองพื้น เบเยอร์ โปร ควิก ไพรเมอร์ บี-1900 และทาทับหน้าเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ด้วย สีทาภายนอก เบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ 15 หรือ หรือสีทาภายใน เบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน
เชื้อราและตะไคร่น้ำเป็นปัญหาที่อันตรายและสร้างความรำคาญใจ หากแก้ไขไม่ถูกวิธีก็มักเกิดซ้ำเสมอ ทางออกที่ได้ผลคือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่กำจัดได้ถึงต้นเหตุและสร้างชั้นป้องกันใหม่ ซึ่ง Beger Mouldfree M-001 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะทั้ง กำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำได้จริง ใช้งานง่าย ปลอดภัย และช่วยป้องกันการเกิดซ้ำได้ยาวนาน
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเชื้อรา ตะไคร่น้ำในบ้าน
Q1 : เชื้อราในบ้านอันตรายจริงหรือไม่?
A1 : จริง และอาจรุนแรงสำหรับเด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ และผู้มีปัญหาทางเดินหายใจ
Q2 : Beger Mouldfree M-001 ใช้ได้กับพื้นผิวแบบไหนบ้าง?
A1 : ใช้ได้ทั้งผนัง-พื้น-เพดาน ที่เป็นปูน, หินล้าง/ทรายล้าง,ไม้จริง/ไม้เทียม และกระเบื้องดินเผา เป็นต้น
Q3 : หลังใช้ต้องล้างออกไหม?
A3 : ไม่จำเป็น แค่ทาทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 3 - 4 ชั่วโมงก็เพียงพอ
Q4 : สามารถทาสีทับได้หรือไม่?
A4 : ได้ เพื่อเพิ่มความสวยงามและปกป้องยาวนาน(ควรทาทับหน้าภายใน 7 วัน)

