กันซึมดาดฟ้า วิธีเลือกและดูแลอย่างถูกต้อง ป้องกันการรั่วซึมระยะยาว
ดาดฟ้าเป็นส่วนที่สัมผัสกับสภาพอากาศเป็นด่านแรก ดังนั้น การเจอแสงแดด ฝน และความชื้นอย่างต่อเนื่องนั้นอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้ หากไม่มีการติดตั้งระบบกันซึมที่มีคุณภาพหรือดูแลไม่ถูกวิธี จะทำให้เกิดรอยแตกร้าวและจุดอ่อนต่าง ๆ ที่น้ำสามารถซึมผ่านเข้ามาได้ ส่งผลให้โครงสร้างภายในเสียหายและเกิดปัญหารั่วซึมตามมา
วิธีเลือกกันซึมดาดฟ้า
เบเยอร์มีกลุ่มผลิตภัณฑ์กันซึมสะท้อนความร้อน ที่สามารถช่วยและแก้ไขปัญหาดาดฟ้าหลังคารั่วซึมได้ 100% และ ปกป้อง ซ่อมแซมการแตกร้าวของพื้นผิวดาดฟ้า หลังคา หรือแม้แต่ผนัง ด้วยความยืดหยุ่นระดับพียูสูงสุด 600% และกันความร้อนได้สูงกว่า 96.3% ทนทานกว่า 7 ปี
1. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทนต่อรังสียูวีและสภาพอากาศ
เนื่องจากดาดฟ้าโดนแดดและฝนตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์ควรมีความทนทานต่อแสงแดดหรือสะท้อนความร้อนได้ ที่สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้อย่าง Beger ROOFSEAL Cool
2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นสูง
ดาดฟ้าต้องเจอกับการขยาย-หดตัวจากความร้อนและความเย็น จึงควรเลือกกันซึมที่ยืดหยุ่น เช่น โพลียูรีเทนหรืออะคริลิกคุณภาพสูง โดยเฉพาะ Beger ROOFSEAL Cool PU Hybrid ที่พัฒนาให้เหนือกว่ากันซึมอะคริลิกทั่วไป ทั้งในด้านความยืดหยุ่นและการสะท้อนความร้อน ช่วยป้องกันรอยแตกร้าวและยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า
3. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทนต่อรังสียูวีและสภาพอากาศ
เนื่องจากดาดฟ้าโดนแดดและฝนตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์ควรมีความทนทานต่อแสงแดดหรือสะท้อนความร้อนได้ ที่สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้อย่าง Beger ROOFSEAL Cool
4. ตรวจสอบการยึดเกาะกับพื้นผิวคอนกรีต
กันซึมต้องยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี เพื่อป้องกันการหลุดล่อนหรือรั่วซึมในระยะยาว
ดูแลรักษากันซึมดาดฟ้าอย่างไรไม่ให้รั่วซึม?
- ตรวจสอบสภาพดาดฟ้าเป็นประจำ หมั่นตรวจเช็ครอยแตกร้าวหรือจุดชำรุด และรีบซ่อมแซมทันทีหากพบปัญหา
- ทำความสะอาดพื้นผิวดาดฟ้า ไม่ให้เศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือตะกอนมาปิดทับ ทำให้ระบบระบายน้ำทำงานผิดปกติ
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ทำลายกันซึม เช่น สารละลายบางชนิดหรือสารทำความสะอาดที่รุนแรง อาจทำให้กันซึมเสียหายเร็วขึ้น
สรุป
การเลือกใช้ กันซึมดาดฟ้า ที่เหมาะสมและการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีคือกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึม โดยผลิตภัณฑ์จากเบอเยอร์เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องบ้านและอาคารของคุณให้อยู่ในสภาพดีอย่างยาวนาน
คำถามที่พบบ่อย
Q1: ผลิตภัณฑ์กันซึมดาดฟ้าใช้งานได้กับพื้นผิวประเภทไหนบ้าง?
A1: ผลิตภัณฑ์กันซึมดาดฟ้าส่วนใหญ่สามารถใช้กับพื้นผิวคอนกรีต ปูน และพื้นผิวหลังคาหลากหลายประเภทได้ โดยควรเลือกชนิดที่มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อรองรับการขยายตัวและหดตัวของวัสดุ
Q2: กันซึมดาดฟ้าทนทานนานแค่ไหน?
A2: ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสามารถทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีได้หลายปี โดยทั่วไปประมาณ 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษา
Q3: สามารถใช้กันซึมซ่อมรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ได้หรือไม่?
A3: ได้แน่นอน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะสมกับขนาดรอยแตกร้าว จะช่วยเติมเต็มและป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าสู่โครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q4: จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์กันซึมรุ่นไหนกับงานดาดฟ้าของเรา?
A4: หากต้องการป้องกันรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นสูง สำหรับรอยแตกร้าวขนาดกลางที่มีน้ำขัง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทนแรงดันน้ำได้ดี และถ้าต้องการทั้งกันซึมและลดความร้อนใต้หลังคา ควรเลือกชนิดที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน Beger ROOFSEAL Cool
Q5: หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์กันซึมดาดฟ้าแล้ว ต้องดูแลอย่างไรบ้าง?
A5: ควรตรวจสอบสภาพดาดฟ้าและระบบกันซึมอย่างสม่ำเสมอ ทำความสะอาดพื้นผิวจากเศษใบไม้ กิ่งไม้ และตะกอนต่าง ๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กันซึมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และควรรีบซ่อมแซมรอยแตกร้าวใหม่ทันทีที่พบ เพื่อยืดอายุการใช้งานของกันซึมให้ยาวนานยิ่งขึ้น